Le Grand Tour แรงบันดาลใจจากฟลอเรนซ์

Grand Tour เกิดขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มทั้งหลาย ได้ออกเดินทางไปต่างแดน เพื่อเรียนรู้และศึกษาเกี่ยวกับร่องรอยอารยธรรมโบราณแหล่งต่างๆ ด้วยตัวเอง อย่างเช่นสร้อยคอ “นวนคร” หรือ Villanova ที่อาศัยความบรรจงของงานเจียระไน และการจัดวางตำแหน่งทัวร์มาลีนสีทับทิมเพื่อให้เผยความงามในน้ำงามของพลอยออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยจำลองแบบมาจากเครื่องประดับศีรษะ

 

Screen Shot 2567 01 14 at 13.12.40

 

บนประติมากรรมรูปปั้นแกะสลักในยุคอารยธรรมอีทรัสคันที่เป็นอารยธรรมที่มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ก่อนการก่อตั้งโรมในยุโรป โดยสร้อยคอ “นวนคร” จะประดับจี้ที่ปลดออกได้พร้อมต่างหูเข้าชุดมีตัวเรือนที่ผลิตจากไวท์โกลด์ ประกอบเข้ากับโรสโกลด์ประดับโมทิฟฝังเพชรร้อยจี้ระย้าทัวร์มาลีนสีทับทิมหรือรูเบลไลต์เจียระไนหลังเบี้ยจำนวน 9 เม็ด โดยมีน้ำหนักรวม 110.04 กะรัต

 

Screen Shot 2567 01 14 at 13.12.33

 

หรือจะเป็นชิ้นงานแหวน “วิหารรัก” หรือ Ode à l’amour ที่มีตัวเรือนผลิตจากโรสโกลด์ประกอบเข้ากับไวท์โกลด์ รองรับไพลินสีชมพู (ไพลินมาดากัสการ์) เม็ดเดี่ยวที่ผ่านการเจียระไนเป็นทรงวงรีโดยมีน้ำหนักรวม 4.04 กะรัต พร้อมการตกแต่งรายละเอียดด้วยงานฝังทับทิม, ไพลินสีชมพู และเพชรเข้าไว้ด้วยกัน จากเรื่องราวในปี 1485 ที่จิตรกรชาวเมืองฟลอเรนซ์

 

Screen Shot 2567 01 14 at 13.12.56

 

Sandro Botticelli ผู้โด่งดังได้สรรค์สร้างหนึ่งในสุดยอดผลงานอันยิ่งใหญ่แห่งยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการของอิตาลีนั่นก็คือ “กำเนิดวีนัส” หรือ The Birth of Venus และในคอลเลกชั่น “นิราศนครอารยศิลป์” หรือ Le Grand Tour นี้เมซงได้ออกแบบแหวน “วิหารรัก” ขึ้นเพื่อยกย่องอัครศิลปินผู้นี้ด้วยการใช้ความเป็นเลิศในไหวพริบทางการสร้างสรรค์อันสุดแยบคาย

 

Screen Shot 2567 01 14 at 13.12.49

 

นอกจากนี้ยังมีแหวน “อุทยานนวาระ” หรือ Jardin de la rose ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความงดงามของ “อุทยานดอกกุหลาบ” หรือ Giardino delle rose ที่ถือเป็นสมบัติสถานล้ำค่าของฟลอเรนซ์และนำมาสร้างสรรค์ โดยเพื่อมอบความสมจริงอย่างเป็นที่สุด ทางแบรนด์จึงต้องระดมความสามารถของช่างฝีมือแผนกต่างๆ ให้มาทำงานร่วมกันเพื่อหลอมรวมไหวพริบและทักษะความชำนาญในหลากแขนงขึ้น

 

Screen Shot 2567 01 14 at 13.13.03