CARL F. BUCHERER 125 Years Swiss history of time

 

Carl F. Bucherer (คาร์ล เอฟ. บุคเคอเรอร์) ร่วมกับ คอร์ติน่า วอทช์ เชิญสื่อมวลชนชั้นนำในประเทศไทยเข้าร่วมจิบน้ำชายามบ่ายพร้อมประกาศความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ โดยทางแบรนด์ได้แต่งตั้งให้ คอร์ติน่า วอทช์ ประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยมีบูติกอยู่ที่ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน และในแผนกนาฬิกาห้างเซ็นทรัลชิดลม และร่วมฉลองครบรอบ 125 ปี แห่งการดำรงอยู่ของ Carl F. Bucherer งานนี้ถูกจัดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2013 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมี Mr. Sascha Moeri (ซาชา โมไร) ซีอีโอ ของ Carl F. Bucherer และ คุณคริส จาติกรัตน์ กรรมการบริหารแห่ง คอร์ติน่า วอทช์ ประเทศไทย ให้เกียรติต้อนรับแขกทุกท่านด้วยความเป็นกันเอง Mr. Sascha ได้กล่าวแนะนำความเป็นมาของแบรนด์ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 ด้วยการที่ Mr. Carl Friedrich Bucherer ได้ก่อตั้งร้านจำหน่ายนาฬิกาและอัญมณีขึ้นในเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเริ่มทำการผลิตนาฬิกามาตั้งแต่ ค.ศ. 1919 ปัจจุบันนี้กิจการอยู่ภายใต้การดูแลของเจเนอเรชั่นที่สามของตระกูล นำโดย Mr. Jörg G. Bucherer โดยมีเวิร์คช็อปผลิตนาฬิกาอยู่ที่เมืองแซงต์-ครัวซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

News 41

 

ภายในงานยังมีการแนะนำให้ได้รู้จักและสัมผัสกับนาฬิการุ่นล่าสุดประจำปี 2013 จากคอลเลคชั่น Manero ซึ่งได้แก่ Manero Power Reserve นาฬิกาตัวเรือนสตีลที่ใช้กลไกอัตโนมัติ Calibre CFB A1011 กำลังสำรอง 55 ชั่วโมง ซึ่งผลิตขึ้นด้วยตนเองแบบอินเฮ้าส์โดยกลไกนี้มากับโรเตอร์ขึ้นลาน 2 ทิศทางแบบใหม่ที่เป็นลักษณะของวงแหวนอยู่ที่ริมขอบของตัวกลไกซึ่งแตกต่างจากโรเตอร์ของกลไกอัตโนมัติทั่วไป ทั้งยังมีฟังก์ชั่นแสดงกำลังสำรอง แสดงวัน และการแสดงวันที่ 2 หลักแบบบิ้กเดทอีกด้วย

 

News 3

 

News 2

 

News 7

 

News 16

 

นาฬิการุ่นใหม่อีกรุ่นหนึ่งก็คือ นาฬิการุ่นพิเศษอย่าง Manero Tourbillon ที่ใช้กลไกไขลานตูร์บิยองบอกเวลาแบบ 2 เข็ม พร้อมฟังก์ชั่นแสดงกำลังสำรอง แสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมง และแสดงวันที่ด้วยเข็มกลาง ให้กำลังสำรอง 70 ชั่วโมง ซึ่งผลิตขึ้นแบบจำนวนจำกัดในตัวเรือนโรสโกลด์เพียง 188 เรือน

 

S5

 

News 14

 

ปิดท้ายกับ Alacria RoyalRose นาฬิกาสุภาพสตรีประดับอัญมณีทั้งเพชรและแซฟไฟร์อย่างละ 137 เม็ดลงบนตัวเรือนไวท์โกลด์ ร่วมด้วยแซฟไฟร์ 89 เม็ด และเพชร 26 เม็ดบนหน้าปัดเปลือกหอยมุก ซึ่งทั้งหมดถูกร้อยเรียงเป็นลวดลายต่อเนื่องกัน สวมคู่กับสายหนังแพะลวดลายสวยงามแปลกตา ทำงานด้วยกลไกควอตซ์ ผลิตในจำนวนจำกัด 125 เรือน

 

S6

 

และในช่วงค่ำคืน ยังได้เชิญลูกค้าคนพิเศษเข้าร่วมรับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องเวสท์ วิง ดิ โอเรียนทอล เรสซิเดนซ์ เพื่อร่วมประสบการณ์เฉลิมฉลองการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจและฉลองครบรอบ 125 ปี รวมถึงร่วมชมนาฬิกาทั้งคอลเลคชั่นล่าสุดและคอลเลคชั่นต่างๆ ของแบรนด์ด้วย