New CARTIER Collection from Watches and Wonders 2023 in Thailand

หลังจากได้เผยโฉมคอลเลคชั่นเรือนเวลาในงานระดับโลกอย่าง Watches and Wonders ประจำปี 2023 ภายใต้ธีม ‘Time Unlimited’ เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไปแล้ว นี่จึงถือเป็นครั้งแรกที่ CARTIER ได้นำเรือนเวลาชิ้นไฮไลท์มานำเสนอ อย่างเช่นนาฬิกาจากคอลเลคชั่น Tank ทั้ง Tank Française และ Américaine Tank ที่เป็นการนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งสำหรับผู้คนยุคปัจจุบัน
 

CARTIER257

 

โดย Tank Française ได้รับการปรับปรุงและพลิกโฉมใหม่ทั้งหมด นับตั้งแต่มีการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1996 โดยถูกนำเสนอผ่านความเรียบง่ายแต่ภูมิฐาน พร้อมความมีเสน่ห์สุดคลาสสิคที่สร้างความแตกต่าง และความสง่างามไร้กาลเวลา ผสมผสานกับความทันสมัยตามแบบฉบับของ CARTIER ได้อย่างลงตัว อย่างที่ Louis Cartier เคยกล่าวไว้ว่านาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ จะเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ประสบความสำเร็จที่สุด

 

123

 

ซึ่ง Tank Française รุ่นใหม่ก็สามารถสะท้อนได้ ถึงความเชื่อมั่นในเชิงสร้างสรรค์ โดยเป็นการจับรูปทรงที่แหวกสไตล์ มาปรับเส้นสายหลักให้เรียบง่ายขึ้น พร้อมตัดทอนรายละเอียดการออกแบบที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อกลับคืนสู่จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน โดยมาพร้อมกับตัวเรือนสตีลประดับเพชรเจียระไนบริลเลียนท์คัท สร้างความระยิบระยับเล่นแสงไฟ และคุณค่าให้กับเรือนเวลามากยิ่งขึ้น

 

789

 

เริ่มต้นจาก Tank Française กลไกควอท์ซขนาดเล็ก ตัวเรือนสตีลประดับเพชร เจียระไนบริลเลียนท์คัทจำนวน 22 เม็ด น้ำหนักรวม 0.70 ในราคาจำหน่ายประมาณ 312,000 บาทที่ประเทศไทย พร้อมกันกับ Tank Française กลไกควอตซ์ ขนาดกลาง ตัวเรือนสตีลประดับเพชรเจียระไนบริลเลียนท์คัทจำนวน 26 เม็ด น้ำหนักรวม 1.09 กะรัต กับราคาจำหน่ายโดยประมาณที่ 358,000 บาท

 

CARTIER262

 

นอกจากนี้ยังมี Tank Américaine ที่ได้รับการออกแบบในปี 1987 และเปิดตัวเมื่อปี  1989  โดยได้แรงบันดาลใจ ตลอดจนตัวเรือนทรงโค้งมนมาจาก Tank Cintrée แต่ขณะเดียวกันก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำคัญ เพราะเป็นเรือนเวลารุ่นแรก ที่มาพร้อมสายแบบปรับความยาวได้ ที่สอดรับกับหัวบัคเกิลแบบพับได้อันโด่งดังที่ CARTIERได้ยื่นจดสิทธิบัตรตั้งแต่ปี 1910

 

Cartier1

 

ในปี 2023 นี้ที่ CARTIER ได้เน้นย้ำดีไซน์ต้นฉบับ และรูปทรงโค้งมนของ Tank Cintrée ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ด้วยการสลักเส้นสายที่ละเอียดยิ่งกว่าเดิม และดูปราดเปรียวดุจนักกายกรรม พร้อมความบริสุทธิ์ของรูปทรง ที่ได้รับการเน้นให้เด่นชัดขึ้นอีกด้วยสไตล์ของหน้าปัด ผนวกกับการเชื่อมต่อกรอบข้างตัวเรือน ให้เข้ากันกับสายนาฬิกาได้อย่างไร้ที่ติ

 

Cartier2

 

ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 1899 MC ที่ปรับขนาดให้สอดคล้องกับตัวเรือนที่บางลง โดย Tank Américaine ใหม่นี้จะมีให้เลือกในแบบตัวเรือนและสายทองคำ แบบตัวเรือนสตีลสายหนัง ตัวเรือนโรสโกลด์ฝังเพชรสายหนัง และตัวเรือนไวท์โกลด์และโรสโกลด์ฝังเพชร บนสายที่ออกแบบมาสำหรับ Tank Américaine โดยเฉพาะ ที่ข้อสายจะขัดเงาทุกด้าน เพื่อให้เมื่อแสงตกกระทบจะมีประกายแวววาว

 

C5

 

Tank Américaine ทำงานด้วยกลไกควอท์ซขนาดมินิ ในตัวเรือนโรสโกลด์ กับราคาจำหน่ายโดยประมาณที่ 283,000 บาท และจะวางจำหน่ายในเดือนกันยายน 2023 เป็นต้นไป พร้อมกันกับ Tank Américaine ที่ทำงานด้วยกลไกควอตซ์ ขนาดเล็ก ตัวเรือนโรสโกลด์ ในราคาจำหน่ายโดยประมาณที่ 423,000 บาท และจะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกันยายน 2023 เป็นต้นไปเช่นกัน

 

CARTIER396

 

นอกจากนี้ยังมี Tank Américaine แบบกลไกควอท์ซขนาดเล็ก ตัวเรือนโรสโกลด์ประดับเพชร เจียระไนแบบบริลเลียนท์คัท 32 เม็ดน้ำหนักรวมทั้งหมด 0.85 กะรัต กับราคาจำหน่ายโดยประมาณที่ 710,000 บาทและจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายน อีกเช่นกัน พร้อมกันกับ Tank Américaine ที่ทำงานด้วยกลไกควอทซ์ขนาดมินิ ตัวเรือนสตีลกับราคาจำหน่ายที่ประมาณ 125,000 บาท

 

CARTIER418

 

และสุดท้ายกับนาฬิกาในคอลเลคชั่น Tank Américaine ที่ทำงานด้วยกลไกควอท์ซขนาดเล็ก ในตัวเรือนสตีลที่มีความสามารถ ในการทนต่อแรงดันน้ำได้ถึง 3 บาร์หรือประมาณ 30 เมตร โดยจะมีราคาจำหน่ายประมาณ 147,000 บาทและจะสามารถวางจำหน่ายได้ในเดือนกันยายน 2023 เป็นต้นไป โดยจะสามารถชมนาฬิกาเรือนจริงได้ที่บูติคนาฬิกา CARTIER ทั่วประเทศ