The Unidentify Flying Object by ULYSEE NARDIN

รัดเข็มขัดให้แน่น เพราะ ULYSEE NARDIN กำลังพาทุกคนออกเดินทางผ่านห้วงเวลาไปสู่อีกมิติ ที่ซึ่งนาฬิกาโครโนมิเตอร์บนยานลำนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรือนเวลาอันเรียบง่าย แต่เป็นการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาคล็อค และจินตนาการอันกล้าหาญแห่งอนาคต ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องบอกเวลาอันเรียบง่าย หรือวัตถุแปลกประหลาด แต่คือผลงานแห่งศิลปะ ในฐานะชิ้นงานแห่งการออกแบบ ที่เชื่อมโยงถึงสถาปัตยกรรม รวมทั้งคลื่นแห่งจักรกล และเป็นดั่งมหากาพย์การผจญภัยครั้งใหม่ของแบรนด์ สู่พรมแดนเหนือผืนน้ำแห่งเครื่องบอกเวลาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

 

ulysse nardin ufo clock glass blowing 1

 

เพื่อการฉลองครบรอบ 175 ปี ULYSEE NARDIN นำพาประเพณีการสร้างสรรค์นาฬิกาคล็อคสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ ด้วยการประดิษฐ์คิดค้นนาฬิกาโครโนมิเตอร์ขึ้นใหม่ในผลงานรุ่น UFO ที่เป็นทั้งนาฬิกาตั้งโต๊ะหรือนาฬิกาคล็อคสำหรับโต๊ะทำงาน ทว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่พิเศษนอกเหนือไปจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแกว่งของจักรกลที่จำลองมาจากการเคลื่อนไหวของคลื่น ภายใต้การผสมผสานของสามไทม์โซนเวลาแห่งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเป็นอีกครั้งที่ ULYSSE NARDIN ได้เปิดตัวสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย กับการเพิ่มสมาชิกใหม่เข้าสู่คอลเลคชั่นของแบรนด์

 

ulysse nardin ufo clock glass blowing 2

 

โดยได้แรงบันดาลใจมาจากนวัตกรรมและการสำรวจ เช่นเดียวกันกับท้องทะเลและท้องฟ้า โดยบรรจุด้วยประวัติศาสตร์แห่งเครื่องบอกเวลาอันหลากหลายของ ULYSEE NARDIN ไว้ภายใต้วัตถุเพียงชิ้นเดียว นับจากนาฬิกามารีนโครโนมิเตอร์ (Marine Chronometer) แห่งศตวรรษที่ 19 และ 20 สู่นาฬิการุ่น Freak ในปี 2001 จวบจนถึง Blast ในปี 2020 ซึ่งต่างก็สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการนาฬิกาโลกอย่างสิ้นเชิง จากคำถามของ Patrick Pruniaux ซีอีโอแห่ง ULYSEE NARDIN ที่ว่านาฬิกามารีนโครโนมิเตอร์ จะมีลักษณะและถูกออกแบบเป็นหน้าตาอย่างไรในปี 2196

 

Ulysse Nardin UFO Clock 4

 

และมหาสมุทรก็คือแรงบันดาลใจสูงสุดที่นำมาสู่การเคลื่อนไหวของ UFO ที่เปรียบดั่งคลื่นแห่งจักรกล โดยโครงสร้างทั้งหมดของนาฬิกาเรือนนี้ ถูกสร้างขึ้นบนความไม่สมดุลบนการแกว่งอย่างนุ่มนวล ซึ่งชวนให้นึกถึงการขึ้นและลงของกระแสน้ำ ที่เป็นการเคลื่อนไหวไม่สิ้นสุดของมหาสมุทร โดยความลับแห่งความสมดุลนี้ ซ่อนไว้ในฐานอลูมิเนียมครึ่งทรงกลมสีน้ำเงิน ซึ่งบรรจุด้วยตุ้มเหวี่ยงทังสเตน ส่วนฐานและแก้วครอบรูปทรงระฆังถูกเชื่อมต่อกันผ่านระบบสลักหรือลิ้น ซึ่งคล้ายกับระบบเก่าแก่ที่พบได้ในบรรดานาฬิกามารีน โครโนมิเตอร์ ด้วยกระจกแก้วที่ขันสกรูว์ออกได้

 

Ulysse Nardin UFO Clock 5

 

ขณะที่นาฬิกามารีน โครโนมิเตอร์มักบรรจุภายในกล่องไม้และติดตั้งบนเพลา เพื่อลดผลกระทบจากการโคลงไปมาอย่างต่อเนื่องของเรือซึ่ง ULYSSE NARDIN ได้กลับด้านแนวคิดนี้ โดยให้วัตถุสร้างคลื่นขึ้นได้เอง และเมื่อถูกดันหรือผลักเบาๆ ด้วยน้ำหนัก 7.2 กิโลกรัม UFO จะแกว่งได้สูงสุดถึง 60 องศาจากแกน ด้วยช่วงกว้าง 120 องศา ซึ่งทีมวิศวกรได้คำนวณอย่างแม่นยำ ถึงจุดศูนย์ถ่วงของอัตราระหว่างแรงโน้มถ่วง/น้ำหนัก/แรงเฉื่อย ที่ช่วยให้ UFO ไม่แกว่งช้าหรือเร็วเกินไป และไร้ซึ่งผลกระทบใดๆ ต่อการทำงานของกลไกต่างๆ ภายใน ซึ่งรวมไปถึงการทำงานที่สำคัญที่สุดของบาลานซ์วีลอีกด้วย

 

Ulysse Nardin UFO Clock 6

 

ไม่ใช่เพียงกลไกของ UFO เท่านั้นที่ได้แรงบันดาลใจจากมหาสมุทร แต่ยังรวมถึงสถาปัตยกรรมโครงสร้าง โดยด้านใต้ระฆังแก้วซึ่งบรรจุไว้ด้วยผลงานสร้างสรรค์อันน่าทึ่งนี้ ยังได้มอบภาพเสมือนทุ่นลอยสีดำและสีเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุที่มอบแรงบันดาลใจให้กับการติดตั้งสัญลักษณ์ X ไว้บนแกนของนาฬิกาคล็อคเรือนนี้ และจากด้านบนโครงสร้างของ UFO ยังดูคล้ายกับกล้องสลับลายหรือคาไลโดสโคปิค (Kaleidoscopic) พร้อมทั้งปรากฏสัญลักษณ์สมอเรือ ที่ครอบครองกลางหัวใจของลวดลายดอกกุหลาบ พร้อมกับระฆังแก้วรูปไข่จากการรังสรรค์ของ Romain Montero ศิลปินช่างเป่าแก้ววัย 26 ปี ผู้สร้างครอบแก้วนี้ด้วยมือล้วน

 

Ulysse Nardin UFO Clock 2

 

ซึ่งสำหรับการผจญภัยครั้งนี้ ULYSEE NARDIN ตัดสินใจร่วมมือกับผู้ผลิตนาฬิกาคล็อคชื่อดังL'Epée แบรนด์คล็อคซึ่งสร้างสรรค์นาฬิกาคล็อก ตามประเพณีเก่าแก่มายาวนานนับจากปี1839 โดยประกอบด้วยชิ้นส่วนถึง 663 ชิ้น พร้อมพลังสำรองลานที่ยาวนานถึงหนึ่งปีเต็ม จากกระปุกลานขนาดใหญ่พิเศษหกชุด  และขอบบาลานซ์วีลที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอันน่าทึ่งถึง 49 มิลลิเมตร นาฬิกา UFO แสดงเวลาบนหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมคางหมูสามหน้าปัด โดยสามารถเลือกแสดงเวลาสามไทม์โซนที่แตกต่างได้พร้อมกัน นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นได้จากมุมที่ต่างกันทั้งสามมุมอีกด้วย

 

Ulysse Nardin UFO Clock 3

 

ส่วนบาลานซ์วีลทองเหลืองขนาด XXL ทำงานด้วยความถี่ 0.5 เฮริท์ซ และมีคุณสมบัติหลักๆ สองด้านคือเพื่อรักษาพลังสำรองลานได้อย่างยาวนานระดับหนึ่งปีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเพื่อสร้างการเคลื่อนไหวของวัตถุให้เหมือนกับการเข้าฌาน ด้วยความนุ่มนวลและราบรื่นของการแสดงเวลา พร้อมเปิดโอกาสให้ได้ชื่นชมการแกว่งสลับหนึ่งครั้ง (ครึ่งการแกว่ง) ต่อวินาที นอกจากนี้ฟังก์ชั่นเดดบีทเซคคันด์ ยังเสริมสัมผัสของนาฬิกาคล็อคเรือนนี้ ให้ดูเหมือนการเข้าฌานอยู่ในห้วงแห่งเวลาอย่างเคร่งขรึม

Ulysse Nardin UFO Clock 1

ตัวเรือนผลิตจากอลูมิเนียมขนาด 263 (สูง) x 159 (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง) มิลลิเมตร หนัก 7.2 กิโลกรัม ผลิตในแบบจำนวนจำกัดที่ 75 เรือน พร้อมราคาจำหน่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ 39,000 สวิสฟรังก์