SEIKO Prospex Muay Thai Limited Edition
“มวยไทย” ถือกำเนิดขึ้นกว่าพันปีบนผืนแผ่นดินสยาม จากศิลปะแห่งการเอาตัวรอดในสนามรบโบราณ ด้วยเทคนิคการต่อสู้ที่ต้องอาศัยทั้งร่างกายที่แข็งแกร่ง จิตใจที่หนักแน่น และจิตวิญญาณแห่งนักสู้ จนนำมาสู่การพัฒนาเป็นศิลปะการต่อสู้ที่รู้จักกันในชื่อ “มวยไทย” และการยอมรับในระดับสากล โดยทั้งหมัด เท้า เข่า และศอก รวมเป็นอาวุธพิฆาตทั้ง 8 ที่ต้องอาศัยความแกร่งแห่งเลือดนักสู้ ซึ่งหากไม่นับเรื่องการใช้อาวุธ ร่างกายและฝีไม้ลายมือก็คือสิ่งเดียวที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญ ประกอบกับกลยุทธ์และยุทธวิธีที่เหมาะสมและเหนือชั้น
มวยไทยดำรงอยู่อย่างภาคภูมิตามหลัก 5 ประการ ได้แก่ ความเคารพ เกียรติยศ ประเพณี ความเป็นเลิศ และความเที่ยงธรรม นอกจากนี้ยังมีการไหว้ครู มงคลบนศีรษะ และผ้าประเจียดที่ต้นแขน ที่ถือเป็นส่วนประกอบในพิธีกรรมที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ความกตัญญู การคุ้มครองทางจิตวิญญาณ และการสืบสานประเพณีอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่มวยไทยแตกต่างจากศิลปะการต่อสู้ชนิดอื่น คือการให้ความเคารพต่อบรรพบุรุษ บุพการี และครูบาอาจารย์ ดังนั้นการไหว้ครูจึงถือเป็นพิธีกรรมที่ต้องทำก่อนการขึ้นชก
สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในสิ่งสำคัญที่รวมอยู่ในการไหว้ครู นอกเหนือจากการร่ายรำที่มีความหมายในทุกกระบวนท่าแล้วนั้น มงคลก็คือหนึ่งในเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำขึ้นจากสายสิญจน์ ผ้าดิบ การลงยันต์ และอักขระคาถา ด้วยการถักและม้วนพันให้เป็นวงกลมสำหรับสวมศีรษะ แล้วจึงรวบเป็นหางยาวไว้ด้านหลัง ที่ครูมวยจะเป็นผู้สวมให้นักมวย และถอดออกยามขึ้นชก ซึ่งจากมวยวัดอันเป็นการต่อสู้แบบท้องถิ่น สู่เวทีชิงแชมป์ระดับโลกของมวยไทย ที่ในอดีตอาจเป็นศาสตร์การต่อสู้ ที่ถูกถ่ายทอดมาจากครูบาอาจารย์
ที่สืบสานมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่ในปัจจุบันมวยไทยถือว่าเป็นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนนับล้าน โดยมีชาวต่างชาติจำนวนมากนิยมเดินทางมาเพื่อเรียนรู้ เชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับความทันสมัย ประเพณีกับความก้าวหน้า ของประเทศไทยกับประชาคมโลก โดยนาฬิกา Prospex ซีรี่ส์พิเศษนี้ นอกจากจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่จะผลิต ในรูปแบบไทยแลนด์ลิมิเต็ดเอดิชั่นแล้ว ยังมีเซอร์ไพร์สด้วยการนำนักมวยไทยผู้สร้างตำนานและน่ายกย่อง ในฐานะแชมป์ผู้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างชื่อ
ให้มวยไทยโด่งดังในระดับสากลอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” มานำเสนอถึงความพิเศษให้กับนาฬิกาในซีรี่ส์นี้ ที่เต็มไปด้วยความแกร่ง ความดิบ ความดุดัน และพลังแห่งชัยชนะ ที่ซึ่ง SEIKO Prospex Muay Thai Limited Edition ขออ้างอิงแรงบันดาลใจมาจากไฟท์ติ้งสปิริท ของนักสู้เพื่อเป็นตัวจบของบทสรุป และเพื่อสร้างตำนานให้เป็นที่โจษจันและเล่าขานกันสืบไป ผ่านตัวเรือนที่แฟนๆ ของ SEIKO ให้สมญานามว่า King Sumo พร้อมลวดลายจากการถักและพันของมงคล อันเป็นแรงบันดาลใจที่เต็มไปด้วยพลังและความขลัง
และถูกถ่ายทอดลงบนหน้าปัดนาฬิกาใน Ref. SPB536J ด้วยเทคนิคการปั๊มจมเพื่อให้พื้นผิว เกิดมีลวดลายคล้ายพื้นผิวของเชือก โดยสีดำของหน้าปัดและขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิค คือตัวแทนของความบึกบึน ความดุดัน และความน่าเกรงขามของนักสู้ พร้อมหลักชั่วโมง ชุดเข็ม ขอบตัวเรือนด้านนอก ตัวเรือน สาย จนถึงฝาด้านหลัง ที่เลือกใช้สีทองอร่ามโดยอ้างอิงแรงบันดาลใจ มาจากเข็มขัดแชมป์เปี้ยนของนักมวย อันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวที่ผู้ชนะ จะมีสิทธิ์ได้ครอบครองบนเวทีการแข่งขัน ของมวยไทยในยุคปัจจุบัน
ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6R35 ที่สามารถหยุดเข็มวินาทีและขึ้นลาน ได้ด้วยมือผ่านเม็ดมะยม ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา ให้พลังสำรองลานนาน 70 ชั่วโมงในตัวเรือนขนาด 45 มิลลิเมตร ที่ผลิตจากวัสดุสตีลให้ความทนทาน กับทั้งตัวเรือนและสายพร้อมขอบเบเซลที่ผลิตจากเซรามิค และมาพร้อมฝาด้านหลังที่สลักคำว่า Limited Edition และหมายเลขประจำตัวเรือน ในจำนวนการผลิตแบบจำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลกเท่านั้น ซึ่งมาในกล่องที่ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ โดยอ้างอิงจากเวทีมวยที่เป็นสังเวียนการต่อสู้อันดุเดือด
โดยเมื่อเปิดฝาพร้อมกันทั้งสองด้าน จะพบกับนาฬิกาเรือนสีทอง พร้อมสายซิลิโคนที่แถมพิเศษ กับกล่องด้านข้างที่พิมพ์ลายโลโก้ Prospex และคำว่า Limited Edition ในโทนสีทอง โดยจะพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2025 ที่ ร้านไซโก ณ เกษรวิลเลจ เกษรเซ็นเตอร์ชั้น 1 รวมทั้งที่บูติคแบรนด์นาฬิกา SEIKO ณ ห้างเซ็นทรัลแกรนด์พระรามเก้า, เคาน์เตอร์นาฬิกา SEIKO ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ และบนเว็บไซน์หลักอย่างเป็นทางการwww.seikoboutiquethailand.com
