Freak [X Gold Enamel], Part II
จากกระบวนการเคลือบแบบอีนาเมล ที่เริ่มต้นด้วยการล้างและบดสารประกอบของแข็งแบบดิบ ให้เป็นผงละเอียดโดยการบดแบบดั้งเดิม ซึ่งขั้นตอนอันพิถีพิถันนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ ถึงความสม่ำเสมอและโทนสีที่สมบูรณ์แบบ ของสารเคลือบสีน้ำเงินที่จะเคลือบบนจานหมุน กับหน้าปัดสีน้ำเงินที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของมรดกทางทะเลของ ULYSSE NARDIN และช่างฝีมือที่มากด้วยความสามารถในการผลิตจาก DONZÉ Cadrans ที่ยังคงพัฒนาเฉดสีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

เพื่อให้เหมาะกับนาฬิกาในแต่ละเรือน โดยการค้นหาส่วนผสมของเม็ดสีที่เหมาะสมนี้ ถือเป็นการทดลองเพียงบางส่วน ซึ่งต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมีและทฤษฎีของสี จากนั้นจึงเติมน้ำเพื่อทำเป็นผงสีซึ่งจะถูกทา ลงบนจานอย่างระมัดระวังและเผาที่อุณหภูมิสูงประมาณ 800° เซลเซียส โดยหลังจากเย็นตัวลงและทำความสะอาดแล้ว จะยังมีขั้นตอนการทาและเผาอีกสามถึงสี่ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะช่วยเพิ่มความลึก ความเข้ม และความเปล่งประกายของสี

จนเมื่อเสร็จสิ้น แผ่นดิสก์จะถูกขัดด้วยมืออีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน และใช้เวลาเฉพาะในขั้นตอนนี้อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็ม โดยทุกขั้นตอนในเตาเผาจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดข้อบกพร่อง เช่น ฟองอากาศหรือรอยแตก ซึ่งมักต้องเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้ง และนับเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ความอดทน ความแม่นยำ และทักษะทางเทคนิคอันโดดเด่น จนทำให้อีนาเมลเป็นหนึ่งในวัสดุที่ท้าทายที่สุด ในการฝึกฝนสำหรับวงการนาฬิกาชั้นสูง

ดังนั้นแผ่นพื้นหน้าปัดอีนาเมลแต่ละแผ่นของ Freak [X Gold Enamel] ที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นจำนวน 120 เรือน จะถูกรังสรรค์ขึ้นทีละแผ่นโดยแต่ละแผ่นต้องใช้เวลาทำงานเต็มทั้งวัน หรือประมาณแปดชั่วโมงจึงจะเสร็จสมบูรณ์ และผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นผลงานสร้างสรรค์ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริง ที่จะไม่มีแผ่นอีนาเมลสองแผ่นใดเหมือนกันทุกประการ โดยแต่ละชิ้นจะล้วนมีมิติและโทนสีเฉพาะตัว พร้อมจิตวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสีสันอันโดดเด่นเหนือกาลเวลา

นาฬิกา ULYSSE NARDIN รุ่น Freak [X Gold Enamel] จะทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ UN-230 ที่ทำงานในแบบฟลายอิ้งคารูเซลที่หมุนรอบแกนของตัวเองพร้อมชุดเฟืองที่ผลิตจากซิลิคอน และสายใยสปริงพร้อมบาลานซ์วีล ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานในเครือที่ SIGATEC ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการสำหรับวัสดุซิลิคอนเฉพาะของ ULYSSE NARDIN ทำงานที่ความถี่ระดับ 3 เฮริท์ซหรือ 21,600 รอบต่อชั่วโมง และให้พลังสำรองลานนานถึง 72 ชั่วโมง

พร้อมชุดโรเตอร์ที่ผลิตจากวัสดุโรสโกลด์ ในตัวเรือนและขอบตัวเรือนที่ผลิตจากไทเทเนียมพีวีดีสีน้ำเงิน ผนวกชิ้นส่วนด้านข้างในวัสดุโรสโกลด์ และมาร์กเกอร์ผ่านการเคลือบสารซุปเปอร์-ลูมิโนว่า® สีขาว ในขนาดตัวเรือนที่ 43 มิลลิเมตร หนา 10.7 มิลลิเมตร ใช้งานคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำเงิน กับหัวเข็มขัดแบบบานพับที่ผลิตจากไทเทเนียมพีวีดีสีน้ำเงิน โดย นาฬิกา ULYSSE NARDIN รุ่น Freak [X Gold Enamel] จะมีราคาจำหน่ายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ 46,000 ฟรังก์สวิส


