DB25 Monopusher Chronograph

กับการเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับนาฬิกาในคอลเลคชั่น DB25 ด้วยฟังก์ชั่นโครโนกราฟในแบบปุ่มเดียว ซึ่งชุดกลไกความซับซ้อนนี้ถือว่ามีความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับ Denis Flageollet ผู้ก่อตั้งและช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์ของ De BETHUNE เพราะสามารถสะท้อนให้เห็นได้ดี ถึงความพยายามในการสร้างสรรค์ชุดกลไกนาฬิกา มาโดยตลอดตั้งแต่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกของแบรนด์ในปี 2002 กับ De BETHUNE DB25 Monopusher Chronograph ที่ถือเป็นนาฬิกากลไกโครโนกราฟแบบมีปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว

 

Screenshot 2568 07 04 at 21.38.33

 

เป็นรุ่นที่สี่ในประวัติศาสตร์ของ De BETHUNE โดยยังคงสานต่อเส้นทางที่เริ่มต้นไว้ เมื่อกว่าสองทศวรรษก่อนจากนาฬิการุ่น DB1 ในปี 2002 ตามมาด้วยรุ่น DB8 ในปี 2003, DB28 Maxichrono ในปี 2014 และ DB Eight ในปี 2023 จนมาถึง DB25 Monopusher Chronograph ในปี 2025 นี้โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ อันเป็นสุนทรียศาสตร์แห่งความประณีตจากทศวรรษที่ 1920 และ 1930 โดยยกย่องฝีมือการประดิษฐ์ชิ้นงานของปรมาจารย์ด้านนาฬิกาในศตวรรษที่ 18 เช่น Jean Antoine Lépine และ Julien Leroy

 

Screenshot 2568 07 04 at 21.41.36

 

“สำหรับนาฬิการุ่นใหม่แต่ละรุ่น ผมจะทำงานโดยยึดหลักความคลาสสิค ของหน้าปัดสีเงินและเข็มแสดงค่าเวลาสีน้ำเงินอยู่เสมอ” Denis Flageollet กล่าวถึงหน้าปัดแบบมินิมอลที่มีความสง่างาม พร้อมแสดงให้เห็นได้ถึงงานฝีมืออันพิถีพิถัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิธีการโต้ตอบกับแสงและวัสดุที่ตกแต่ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแนวทางจาก De BETHUNE กับหน้าปัดนาฬิกาที่ได้รับการตกแต่งด้วยมือทั้งหมดในทุกขั้นตอน โดยมีหน้าปัดที่โดดเด่น ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาที่มาพร้อมลวดลายกิโยเช่สีข้าวบาร์เลย์คอร์น

 

Screenshot 2568 07 04 at 21.57.00

 

ซึ่งตัดกันอย่างละเอียดอ่อนกับพื้นหลังที่แกะสลักด้วยมือ เพื่อให้สามารถเปล่งประกายและอ่านค่าเวลา ที่ผ่านไปได้อย่างชัดเจนมากที่สุด โดยการอ่านค่าเวลาจะชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยเฉดสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของ De BETHUNE ซึ่งปรากฏอยู่บนตัวเลข แทร็กนาที มาร์กเกอร์ และเข็มจับเวลาที่ผลิตจากวัสดุไททาเนียม พร้อมการขัดเงาสีน้ำเงินที่ให้ความโดดเด่นตรงกลางหน้าปัด โดยทำงานด้วยกลไกไขลานอินเฮ้าส์โครโนกราฟในตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตรที่ลดขนาดลงและถือเป็นความท้าทายทางเทคนิคที่สำคัญ

Screenshot 2568 07 04 at 21.40.07

 

ที่ทีมงานของ De BETHUNE ต้องเผชิญกับความยุ่งยากเหล่านี้ แต่ยังต้องคงความพิเศษต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน เพื่อไม่ให้ลดทอนความสวยงามที่มาจากประณีตของนาฬิการุ่นDB25 เดิม กับตัวเรือนไททาเนียมเกรด 5 ที่ผ่านการขัดเงา และกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์พร้อมให้น้ำหนักที่เบาอย่างน่าทึ่ง โดยปุ่มกดฟังก์ชั่นโครโนกราฟแบบโคแอกเซียล จะผสานเข้ากับชุดเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกาได้อย่างลงตัว โดยมีขอบหน้าปัดที่เพรียวบางช่วยเพิ่มความโปร่งสบาย คู่กันกับขาสายแบบเปิดอันประณีตงดงาม

 

Screenshot 2568 07 04 at 21.42.01

 

โดยชุดกลไกคาลิเบอร์ DB3000 นี้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2023 พร้อมกับการเปิดตัวนาฬิการุ่น DB Eight ซึ่งเป็นกลไกลำดับที่ 31 ที่ออกแบบและผลิตขึ้นโดย De BETHUNEและได้รับการปรับโฉมใหม่โดย Denis Flageollet และทีมงานด้านเทคนิค เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างยาวนาน ในการมุ่งสร้างชุดกลไกโครโนกราฟแบบปุ่มเดียว ที่ผสมผสานเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมล่าสุดของแบรนด์เอาไว้ จากการตีความใหม่พร้อมจิตวิญญาณร่วมสมัยและนวัตกรรม กับชุดคอลัมน์วีลอันบางเฉียบ

 

Screenshot 2568 07 04 at 21.42.33

 

และชุดแสดงค่าเวลาโครโนกราฟ 60 นาทีที่สามารถแสดงผลได้ในทันที ซึ่งถือเป็นความสำเร็จทางด้านเทคนิค ที่น่าประทับใจสำหรับกลไกประเภทนี้ โดยมีการผสานนวัตกรรมล่าสุดของ De BETHUNE ไว้ด้วย เช่น บาลานซ์วีลที่ผลิตจากไททาเนียมและไวท์โกลด์ บาลานซ์สปริงแบบปลายแบน และเอสเคปวีลที่ผลิตจากซิลิโคน โดยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของกลไกชุดนี้ ถูกเปิดเผยผ่านฝาหลังของตัวเรือน ที่ช่วยแสดงให้เห็นบริจด์ชิ้นใหญ่ที่ขัดเงาทั้งหมด พร้อมรายละเอียดอันซับซ้อนอีกมากมาย

Screenshot 2568 07 04 at 21.37.53

 

ที่ช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงฝีมืออันยอดเยี่ยม ของช่างนาฬิกาและความเอาใจใส่ในรายละเอียด อย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ที่นักสะสมนาฬิกาและผู้ที่ชื่นชอบ จะให้ความชื่นชมถึงความสง่างามอันประณีต ของชุดกลไกโครโนกราฟอันแสนคลาสสิคจาก DE BETHUNE ชุดนี้ ซึ่งจับคู่มากับความสะดวกสบาย ที่จะสามารถสวมใส่ได้ในทุกวันพร้อมความพิเศษ ของชุดกลไกที่ให้ความแม่นยำและความล้ำสมัยทางเทคนิค ที่จะปรากฏอยู่บนข้อมือของผู้ที่มีความพิเศษทุกคน ที่จะภาคภูมิใจกับความเรียบง่ายแต่ลึกล้ำนี้