การกลับมาของ FRANCK MULLER และ #FR2

จากแบรนด์สตรีทแวร์แห่งโตเกียว #FR2 ที่กลายเป็นไอคอนของแนวคิดขบถ อันเป็นที่รักท่ามกลาง ผู้ซึ่งหลงไหลในสไตล์สตรีท และเป็นที่รู้จักกันอย่างดีจากเอกลักษณ์ ของลวดลายกระต่ายแสนกวนอย่าง Fxxking Rabbits ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเปิดตัวความร่วมมือ เป็นครั้งแรกกับแบรนด์ FRANCK MULLER มาแล้วเมื่อสองปีก่อน จากการร่วมงานกันสร้างสรรค์นาฬิการุ่น #FR2NCK MULLER Vanguard ซึ่งผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัด และจับคู่มากับภาพกราฟิคอันเป็นสัญลักษณ์ของ #FR2

ส่วนในรุ่นต่อมาด้วยความร่วมมือของ FRANCK MULLER และ #FR2 ในปีนี้ ที่แน่นอนว่ายังคงร่วมกันถ่ายทอด เอกลักษณ์เฉพาะตัวของลวดลาย Fxxking Rabbits ทว่าเสริมไว้ด้วยการเผยโฉม ภายใต้ความสอดคล้องของเฉดสีแบบโมโนโครม สไตล์ใหม่ในเรือนเวลารุ่น #FR2NCK MULLER Vanguard Beach Limited Edition ที่ต้อนรับเฉดสีสันแห่งฤดูร้อน อันเต็มไปด้วยความสดใส และชวนให้นึกถึงจิตวิญญาณ อันอิสระของช่วงเวลากลางวัน ซึ่งอาบไปด้วยแสงอาทิตย์อันเจิดจ้า

พร้อมทั้งสายลมโชยอ่อนแห่งท้องทะเล ทั้งยังนับเป็นการหวนคืนสู่ต้นตำรับของคอลเลคชั่น Vanguard Beach ที่เปิดตัวในปี 2023 อีกด้วย โดยนาฬิการุ่น #FR2NCK MULLER Vanguard Beach Limited Edition มีให้เลือกในสามเฉดสี ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคอลเลคชั่น Vanguard Beach รุ่นดั้งเดิม ทั้งรุ่น Heatwave Red, Surf Blue และ Tropical Green ซึ่งแต่ละรุ่นจะผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัดเพียง 300 เรือน และทั้งสามแบบก็ล้วนต้อนรับฤดูร้อน ด้วยทุกองค์ประกอบของนาฬิกาในคอลเลคชั่น

กับหน้าปัดที่นำเสนอด้วยสีสันและรายละเอียด ซึ่งแสดงออกถึงความเป็นไปได้ ในการสร้างสรรค์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อรังสรรค์ตัวเรือนอันเต็มไปด้วยเฉดสีสดใส และลุ่มลึกเหล่านี้ จากขั้นตอนแรกของกระบวนการผลิต ที่เป็นการหลอมแก้วที่อุณหภูมิ 1,500°c และดึงจนได้เส้นใยโลหะอันละเอียดสูง ก่อนที่จะทำให้เย็นบลงและสร้างรูปสู่แผ่นโลหะต่างๆ ภายใต้อุณหภูมิ 700°c ซึ่งหลังจากนั้นแผ่นโลหะก็จะถูกชุบในอ่างสีพิเศษ เพื่อให้ได้โทนสีที่ต้องการ ก่อนจะถูกกดอัดเป็นแท่งกลาสไฟเบอร์คอมโพสิท

ขณะที่ไอคอน อย่าง Fxxking Rabbits ยังมีการตกแต่งเพิ่มเติมในองค์ประกอบ อันเป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน อาทิ ร่มชายหาด เซิร์ฟบอร์ด ท่ามกลางพืชพรรณเขียวชอุ่ม นอกจากนี้ เพื่อการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับแต่ละฉาก ทางแบรนด์จึงได้ย้ายการจัดวางช่องหน้าต่าง สำหรับการแสดงวันที่ไว้ที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา ทั้งยังชวนให้นึกถึงสไตล์อันเป็นไอคอนิกของ #FR2 พร้อมทั้งเสริมความโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยสัญลัษณ์ของดวงอาทิตย์ที่เปล่งประกายรัศมีเหนือขึ้นไป และเพื่อเสริมมิติของภาพ

พร้อมทั้งเติมเต็มความสามารถในการมองเห็นได้ในที่มืด ลวดลายกระต่ายและเข็มชี้สไตล์สเกเลตัน อันเป็นเอกลักษณ์ยังถูกฝังไว้ด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา เพื่อมอบแสงเรืองรองสว่างไสว ทั้งหน้าปัดเมื่ออยู่ในที่มืด รวมไปถึงการผสมผสานอันคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีของ FRANCK MULLER ด้วยความซับซ้อนและทันสมัยทางเทคนิคที่แสดงออก ผ่านหน้าปัดให้เข้ากับความสามารถในการสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยตัวเรือนทรงตอนโนที่ขึ้นรูปมาจาก วัสดุกลาสไฟเบอร์คอมโพสิท

เพื่อมอบการปรากฏโฉมที่ทั้งมีคุณสมบัติน้ำหนักที่เบา แต่ยังคงความแข็งแกร่งทนทาน ที่เหมาะกับการสวมใส่ได้ในทุกๆ วัน นอกจากนี้ แต่ละตัวเรือนยังมาพร้อมสายผ้าไนลอน ที่รองไว้ด้วยหนังที่ด้านใต้ พร้อมทั้งชุดล็อคแบบตะขอและห่วง เพื่อมอบทั้งความสะดวกสบายและความเรียบเนียน ไปกับสายนาฬิกาพร้อมการพิมพ์ ด้วยรายละเอียดการตกแต่งที่แตกต่างกัน ทั้งข้อความและสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ชวนให้นึกถึงสุนทรียะความงาม ในสไตล์สตรีทแวร์ของญี่ปุ่น ตามแบบของ #FR2




