Infinite Grey
นับตั้งแต่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1975 ของนาฬิการุ่น Laureato จาก GIRARD-PEREGAUX นาฬิการุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ แห่งการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ พร้อมชุดกลไกที่เป็นหัวใจในการทำงาน ที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์ ซึ่งนำเสนองานการขัดแต่งอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นการรำลึกถึงความเป็นเลิศ ในศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาชั้นสูง
กับในปัจจุบันนี้ที่ GIRARD-PERREGAUX ยังภูมิใจนำเสนอผลงานนาฬิการุ่น Laureato ขนาด 42 มิลลิเมตร ที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในงานศิลปะดั้งเดิม ในนาฬิการุ่นใหม่ที่มีหน้าปัด ที่เคลือบอีนาเมลสีเทาด้วยเทคนิคกรองฟูว์ ที่สามารถสะกดทุกสายตาที่จับจ้อง ด้วยจุดเด่นที่เป็นพื้นหน้าปัดอันประณีต และโดดเด่นด้วยเฉดสีน้ำเงินอมฟ้า ซึ่งผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันภายในโรงงานของ SOWIND GROUP ที่บริหารงานแบรนด์นาฬิกา
GIRARD-PERREGAUX ด้วยกระบวนการศิลปะชั้นสูงเช่นกัน เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ ในการรักษามาตรฐานแห่งงานฝีมือชั้นสูง จากอีนาเมลแต่ละชิ้นที่ผลิตจากส่วนผสม อันลงตัวระหว่างซิลิกา มินเนียม โพแทช และโซดา ที่ถูกบดละเอียดจนกลายเป็นผงเนื้อเนียน ก่อนผสานเข้ากับโลหะออกไซด์ เพื่อสร้างสรรค์เฉดสีอันลุ่มลึกและซับซ้อนที่สีแต่ละโทนจะสะท้อนแสงอย่างมีมิติ และจากนั้นผงอีนาเมลก็จะถูกเคลือบบนหน้าปัด
ด้วยความประณีตก่อนนำเข้าเตาเผาที่ อุณหภูมิในระดับสูงถึงประมาณ 800 องศาเซลเซียส ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่า 5 ถึง 10 ครั้งเพื่อให้ชั้นเคลือบสี สามารถหลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ และเกิดเป็นผิวสัมผัสที่งดงาม พร้อมเปล่งประกายและให้ความทนทาน ซึ่งด้วยความซับซ้อนและความไม่แน่นอน ของกระบวนการเผาในลักษณะนี้ หน้าปัดบางชิ้นจึงต้องถูกคัดออกแม้มีเพียงรอยตำหนิเล็กน้อย โดยการควบคุมคุณภาพอันเข้มงวดนี้ ยังสะท้อนถึงความเป็นเลิศ
ในการส่งมอบงานศิลป์แห่งเครื่องบอกเวลา ที่จะต้องไม่เพียงแค่งดงามแต่ยังคงคุณภาพสี ที่ไม่เปลี่ยนแปลงภายใต้เฉดสีเทาอมฟ้าอ่อน โดยหน้าปัดได้รับการตกแต่ง ด้วยลวดลายซันเรย์แบบฟลิงเก้ (Flinqué) ซึ่งแฝงตัวอยู่ใต้ชั้นอีนาเมลโปร่งแสง เพื่อเผยประกายแสงที่ชวนให้หลงใหลในทุกมุมมอง โดยการเลือกใช้เทคนิคอีนาเมลในนาฬิการุ่น Laureato นี้นับเป็นความลงตัว ด้วยพื้นผิวที่เปี่ยมไปด้วยความลึกของเฉดสี และความเงางามอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เพื่อพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าศิลปะในแบบอีนาเมลนี้ มิใช่เพียงรูปแบบสำหรับตกแต่งเท่านั้น หากแต่เป็นสื่อกลางที่ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งศิลปะอันไร้กาลเวลา เพื่อสะท้อนถึงความประณีตในทุกรายละเอียด ของเครื่องบอกเวลาชั้นสูง โดยยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Laureato ไว้อย่างครบครัน กับขอบหน้าปัดทรงแปดเหลี่ยม ที่ติดตั้งอยู่บนฐานทรงกลม และตัวเรือนทรงตอนโน ที่สร้างความกลมกลืนระหว่างเส้นสาย และการเล่นแสงเงาได้อย่างลงตัว
ในพื้นผิวสตีลที่สลับกันระหว่างการขัดเงาและขัดแบบซาติน เพื่อช่วยเพิ่มมิติที่ดูสลับซับซ้อนและสามารถมองเห็นได้ด้วยสายตา กับความบางเฉียบของตัวเรือนและสายนาฬิกา ที่ทำให้นาฬิการุ่น Laureato มีความโดดเด่นในเรื่องของความสบายขณะสวมใส่ พร้อมกับสไตล์คลาสสิคจากเข็มแสดงค่าชั่วโมง และนาทีที่เคลือบโรเดียมทรงบาตอง ขณะที่เข็มแสดงค่าวินาทีทรงเพรียวบาง ตรงกลางหน้าปัดจะประดับตุ้มน้ำหนัก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากบริจด์ทองคำ
อันเป็นเอกลักษณ์ของ GIRARD-PERREGAUX และยังเป็นการรำลึกถึงรากฐาน แห่งศาสตร์ของเครื่องบอกเวลา พร้อมช่องหน้าต่างแสดงวันที่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ที่ได้รับการออกแบบด้วยตัวเลขสีขาว บนแผ่นดิสก์ที่มีสีเดียวกันกับพื้นหน้าปัด และเช่นเดียวกับนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1975 นาฬิการุ่น Laureato ในขนาด 42 มิลลิเมตรใหม่ ยังคงขับเคลื่อนด้วยกลไกที่ผลิตขึ้นภายในโรงงานของแบรนด์เอง นั่นคือกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ GP01800
ซึ่งได้รับการพัฒนาและประกอบขึ้นอย่างพิถีพิถัน ที่โรงงานในลาโชเดอฟองซ์ พร้อมมอบพลังสำรองลานได้นานอย่างน้อย 54 ชั่วโมง จากชุดโรเตอร์พิ๊งค์โกลด์ที่ประดับด้วยลวดลายโค๊ทส์เดอเจอเนฟแบบวงกลม และบนบริจด์ในแบบเส้นตรง ผนวกเข้ากับสกรูว์ที่ผ่านการขัดเงา และขอบที่ขัดแต่งอย่างบรรจง ซึ่งทั้งหมดนี้คือเครื่องหมาย อันเป็นเอกลักษณ์ของงานประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูง ที่ทำให้แบรนด์ได้รับการยกย่องมาอย่างยาวนานกว่า 230 ปีจนถึงปัจจุบัน
