LM Perpetual Longhorn, and LM Sequential Flyback Longhorn
ปี 2025 ถือเป็นปีแห่งการครบรอบ 20 ปีของการผจญภัยที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2005 เมื่อ Maximilian Büsser เริ่มรวบรวมเครือข่าย "เพื่อน" จากภาพร่างที่รู้จักกันดีในปัจจุบันกับชื่อ Horological Machine No.1 จนต่อเนื่องมาในสองทศวรรษกับชุดกลไกที่ผลิตขึ้นได้มากกว่า 20 คาลิเบอร์พร้อมทีมงานของ MB&F และพนักงานที่มีมากกว่า 60 คนซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยม กับสิ่งที่ Max เล่าถึงช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมาว่า “เหมือนกับความฝันที่เป็นจริง เพียงแต่ผมไม่เคยฝันเลย และไม่เคยคิดเลยว่าจะอยู่ในจุดนี้ที่เหนือจริงได้”
ดังนั้นในปีนี้จึงจะเต็มไปด้วยนาฬิการุ่นใหม่ ความร่วมมือใหม่ๆ และความประหลาดใจที่จะเป็นการฉลองให้กับโอกาสนี้ได้อย่างแท้จริง กับความเป็นศิลปะจากแนวความคิดสร้างสรรค์ของ MB&F โดยเริ่มต้นด้วยนาฬิกาที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวนสองรุ่น ได้แก่ LM Perpetual Longhorn และ LM Sequential Flyback Longhorn ที่จะผลิตขึ้นเพียงแบบละ 20 เรือน จากแนวคิดของรูปแบบ Longhorn ที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 ระหว่างขั้นตอนการออกแบบ LM1 ซึ่งเป็นนาฬิกาในคอลเลคชั่น Legacy รุ่นแรกจาก MB&F
จากแนวคิดของสไตล์พร้อมลูกเล่น โดยออกแบบให้มีขาตัวเรือนที่ยาวขึ้น หรือที่เรียกกันว่าลองฮอร์น (เขาสัตว์) ซึ่งดูดีแต่กลับเป็นปัญหาว่าชุดสปริงบาร์ควรอยู่ที่ตำแหน่งไหน จะใกล้กับตัวเรือนหรือที่ปลายของขา ซึ่งตัวเลือกทั้งสองอาจทำให้สวมใส่ได้พอดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดข้อมือ ขาที่ยาวนี้จึงเปลี่ยนเป็นขาสั้น และก็ต้องเป็นเช่นนั้น หรือทุกคนก็ต้องคิดเช่นนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากเวลาข้ามผ่านไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วสู่ปี 2021 และในปีครบรอบ 10 ปีของ LM1 ก็ไม่มีนาฬิกา LM1 เหลืออยู่ในตลาดอีกต่อไปแล้ว
เนื่องจาก MB&F ได้ตัดสินใจยุติการผลิตนาฬิการุ่นนี้ไปแล้ว เหลือเพียงเรือนต้นแบบเดียวเท่านั้น ซึ่งอาจถือเป็นก้าวสำคัญในครั้งนี้ แต่นาฬิกาเรือนนี้จะมีความพิเศษยิ่งกว่าทุกอย่างที่เคยมีมาได้อย่างไร ในขณะนี้เองที่มีคำถามเรื่องขาตัวเรือนที่ยาวเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ด้วยแนวคิดอันชาญฉลาดในการเจาะรู จำนวนสองรูที่จุดเชื่อม โดยรูหนึ่งอยู่ที่ปลายขาและอีกรูใกล้กับตัวเรือน ซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่สามารถตัดสินใจเลือกได้ แต่นี่ก็ไม่ใช่คุณลักษณะพิเศษเพียงอย่างเดียว ของนาฬิกาเรือนพิเศษที่มีเอกลักษณ์เฉพาะนี้
กับ LM1 ที่ส่วนใหญ่จะเป็นตัวเรือนทองคำ แพลทินัม หรือไทเทเนียม แต่นาฬิกาที่พิเศษและไม่ซ้ำใครรุ่นนี้จะมาในตัวเรือนสตีล และแทนที่จะใช้หน้าปัดย่อยสีขาวคลาสสิคตามแบบของ Legacy Machine แต่จะใช้หน้าปัดสีดำมันตัดกับสีโรเดียมของฐาน แม้หน้าปัดสีดำมันนี้จะสร้างเรื่องน่าปวดหัว จากแค่เพียงฝุ่นผงที่เล็กที่สุด ก็สามารถทำลายความงามทั้งหมดได้ แต่ความอดทนและความอุตสาหะในการผลิตก็ย่อมมีชัยจนได้ และกลายเป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นและมอบรายได้ให้กับ SAVE THE RHINO INTERNATIONAL
โดย PHILLIPS ร่วมกับ BACS & RUSSO ซึ่งเป็นการปิดฉากของ LM1 ซึ่งอย่างไรก็ตาม ผลตอบรับอันน่าเหลือเชื่อหลังจากการขาย ก็ทำให้เกิดคำถามว่าขายาวและโทนสีดำมันและสีเงินนี้ควรจะสิ้นสุดที่นี่หรือไม่ และว่ากันว่า “สิ่งดีๆ ทั้งหลายย่อมมีจุดจบ” แต่ถ้าสามารถทำให้คงอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย ทำไมไม่คว้าโอกาสที่เหมาะสมไว้ และนี่คือความคิดของนาฬิกาสองเรือนแรกในวันครบรอบในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วยนาฬิกาตัวเรือนสตีล ขาตัวเรือนที่ยาวและแผ่นฐานโรเดียม พร้อมหน้าปัดย่อยเคลือบแลคเกอร์สีดำมัน
เรือนแรกคือ LM Perpetual Longhorn ฟังก์ชั่นเพอเพทชวลคาเลนดาร์ ที่การันตีความพิเศษจากรางวัล GPHG ที่ได้ตั้งแต่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2015 ด้วยความร่วมมือกันกับ Stephen McDonnell ช่างนาฬิกาแนวอิสระกับกลไกที่มีส่วนประกอบมากถึง 581 ชิ้นพร้อมสร้างขึ้นตามความต้องการทุกประการ รวมทั้งยังขจัดข้อเสียของกลไกเพอเพทชวลในแบบเดิมๆ และเสนอโซลูชั่นที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน พร้อมชุดกลไกที่สลับซับซ้อนและตระการตา ที่สามารถมองเห็นได้ในทันทีและนำมาซึ่งสุนทรีภาพใหม่ขององค์ประกอบ
ต่อมากับ LM Sequential Flyback Longhorn ที่คิดค้นโดย Stephen McDonnell เช่นกัน จากเวอร์ชั่นแรกของ LM Sequential EVO ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 2022 และเป็นกลไกโครโนกราฟชุดแรกของ MB&F ซึ่งเป็นคาลิเบอร์ลำดับที่ 20 ของแบรนด์โดยนำเสนอนวัตกรรมทางเทคนิค ที่สำคัญจากการผสมผสานโหมดการจับเวลา อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยสวิตช์ไบนารี่ ที่ช่วยให้สามารถจับเวลาแบบแยกอิสระได้ พร้อมการการันตีจากการได้รับรางวัลสูงสุดAiguille d'Or อันเป็นที่ปรารถนาของทุกแบรนด์จากการประกาศรางวัล GPHG
“เราจะไม่สามารถเล่าถึงการเดินทางของ MB&F ได้โดยไม่ต้องอ้างอิงถึง Stephen McDonnell” Maximilian Büsser กล่าว “และด้วยเหตุนี้เอง เราจึงเริ่มต้นการฉลองครบรอบ 20 ปีด้วยกลไกจากเขา ซึ่งเป็นกลไกที่ซับซ้อนที่สุดในนาฬิกา MB&F” จากการช่วยพัฒนาและประกอบ Horological Machine No.1 ในขั้นสุดท้ายจน หลายปีต่อมาสู่การพัฒนา LM Perpetual และ Sequential โดย Longhorn ในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นทั้งสองนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของปีแห่งการฉลอง ดังนั้นโปรดติดตามผลงานเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ต่อไป
