Tonda PF Sport Chronograph Ultra-Cermet
วัสดุศาสตร์จากเซรามิค มาจนถึงคาร์บอนไฟเบอร์ และปัจจุบันคือก็เซอร์เมท ที่ PARMIGIANI Fleurier ก้าวข้ามกระแสหลักของวัสดุศาสตร์ ด้วยการนำเสนอวัสดุล้ำสมัยในนาฬิการุ่น Tonda PF Chronograph Sport ประจำปี 2025 นี้ ที่รังสรรค์ขึ้นจากวัสดุล้ำสมัยทั้งหมด ได้แก่ CER สำหรับเซรามิค และ MET สำหรับโลหะ กับการพัฒนาที่ใช้เวลานานถึงสามปี และถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีแบรนด์นาฬิกาใด ที่ใช้เซอร์เมทในการขึ้นรูปนาฬิกาเพียงอย่างเดียว ทั้งตัวเรือน ขอบหน้าปัดแบบร่อง เม็ดมะยม ปุ่มกด
รวมไปถึงชุดหัวเข็มขัด พร้อมการทำงานของกลไกอินเฮ้าส์ความถี่สูงคาลิเบอร์ PF070 ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน COSC จากการทำงานที่ระดับ 36,000 รอบต่อชั่วโมง และมาพร้อมฟังก์ชั่นการจับเวลา โดยวัสดุเซอร์เมทถือเป็นวัสดุผสม ที่มีความสามารถในการทนทานต่อรอยขีดข่วน ผสานความแข็งและคุณสมบัติ ความทนทานต่ออุณหภูมิสูง จากพื้นฐานของเซรามิคที่ผสานเข้ากับความเบาของโลหะ ซึ่งคุณสมบัติอันโดดเด่นเหล่านี้เอง ที่ทำให้เซอร์เมทถือเป็นโลหะผสมหลัก ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
หรืออุปกรณ์ไฮ-เทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย โดยมีให้เลือกใน 2 เฉดสีอันน่าดึงดูดใจทั้ง มิลาโน่บลู (Milano Blue) และลอนดอนเกรย์ (London Grey) ที่ต่างก็ถือเป็นสีสันแห่งวิสัยทัศน์ ในอนาคตอันล้ำสมัย ที่มาพร้อมความหรูหรา สปอร์ต สมรรถนะ และความกล้าหาญในการบุกเบิกทางด้านเทคโนโลยี จากเฉพาะชิ้นส่วนตัวเรือนที่ประกอบไปด้วย ชิ้นส่วนที่แตกต่างกันทั้งหมดรวมถึง 72 ชิ้น และแต่ละชิ้นจะต้องประกอบเข้าด้วยกันอย่างพิถีพิถัน ในตลอดช่วงเวลารวมหนึ่งวัน ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของแบรนด์
ที่นำมาสู่ Tonda PF Sport Chronograph Ultra-Cermet พร้อมความสามารถในการสะท้อนแสงได้อย่างโดดเด่น บนพื้นผิวแอนทราไซท์ขัดเงาแบบซาตินที่ไม่แวววาว แต่จะสามารถจับและสะท้อนแสงโดยรอบได้อย่างเด่นชัด และร่วมทำให้นาฬิกาดูมีชีวิตชีวา ในทุกการเคลื่อนไหวของข้อมือ ที่ขึ้นอยู่กับมุมและคุณภาพของแสง ที่พื้นผิวของเซอร์เมทจะเป็นรูปแบบที่สลับไปมา ระหว่างผิวแบบด้านที่ดูหรูหรา และประกายแวววาวแบบเมทัลลิคอันละเอียดอ่อน ที่สร้างมิติแห่งการมองเห็นที่แปลกใหม่ ทั้งแนวร่วมสมัยและประณีต
กับหน้าปัดที่ได้รับการเคลือบด้วยสารแบล็คคอร์ (Blackor) ซึ่งเป็นโลหะผสมอันทรงคุณค่าที่ผลิตขึ้น จากทองคำแบบ 9 กะรัตผสมกับนิกเกิล ที่ช่วยเพิ่มความสมดุลในโทนสีเทาดำเข้ม ซึ่งเสริมความบริสุทธิ์ทางสถาปัตยกรรม และความแข็งแกร่งอันเคร่งขรึมของนาฬิกา โดยเซอร์เมทถือเป็นโลหะผสมชนิดพิเศษ จากพื้นฐานของวัสดุไทเทเนียมและเซรามิค ที่ผ่านการผสมผสานกันอย่างแม่นยำ ด้วยกระบวนการคัดสรรผงของวัสดุทั้งสองอย่างละเอียดและพิถีพิถัน เทียบเท่าได้เช่นเดียวกันกับการกลั่นของเหลวเช่นสาเกบริสุทธิ
ด้วยความแข็งระดับ 1,450 HV (Vickers) จึงมีสัมผัสที่เย็นและคุณสมบัติพิเศษ ในการสะท้อนแสงเพื่อเสริมความหรูหรา และมอบมิติเชิงลึกที่เปลี่ยนแปลงไปตามมุมและความเข้มของแสง เพื่อการก้าวข้ามการประดับและตกแต่ง แต่จะเป็นนิยามความหรูหราใหม่ผ่านนวัตกรรมทางวัสดุศาสตร์ ผสมผสานกับมรดกทางการผลิต ที่มาพร้อมกับวิสัยทัศน์อันกล้าหาญแห่งอนาคตได้อย่างลงตัว ผนวกเข้ากับความเป็นนาฬิกาสปอร์ตอันสง่างาม จากสายแบบยางที่ผ่านการอบชุบด้วยความร้อน และให้ลวดลายอันงดงามพร้อมความประณีต
ที่สะท้อนถึงลายนูนอันเป็นเอกลักษณ์ของขอบตัวเรือน เพื่อสร้างความต่อเนื่องทั้งในด้านรูปลักษณ์และสัมผัส กับเส้นโค้งที่โค้งมนเข้ากับตัวเรือนอย่างงดงาม ลื่นไหล เรียบหรู และประณีต ที่ทั้งหรูหราและให้ความยืดหยุ่นได้ดี จากการรังสรรค์ขึ้นเพื่อผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกา รวมทั้งผู้ที่เปี่ยมด้วยรสนิยมและมองหาการแสดงออก ถึงสไตล์และนวัตกรรมอันโดดเด่น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความสง่างาม ที่สามารถใช้งานได้จริงสำหรับผู้ที่กล้าท้าทายขีดจำกัด ที่ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อความท้าทาย แต่เพื่อแสวงหาความเป็นเลิศไปพร้อมกัน
