CARL SUCHY & SÖHNE by PRÉCIEUX (Thailand)
PRÉCIEUX (Thailand) ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นาฬิกาแนวอิสระ จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟในการเปิดตัวแบรนด์นาฬิกาหรูอย่าง CARL SUCHY & SÖHNE ที่เป็นดั่งตำนานแห่งเรือนเวลาชั้นสูงจากเวียนนา อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม โดยมี Mr. Marcel Gut ซีอีโอของ PRÉCIEUX (Thailand) พร้อมคุณรวิศ เหตานุรักษ์ ซีโอโอของ PRÉCIEUX (Thailand) ร่วมให้การต้อนรับผู้มีเกียรติระดับวีวีไอพี และบรรดาสื่อมวลชนมากมายภายในงาน
โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจาก Dr. Robert Punkenhofer ซีอีโอของแบรนด์นาฬิกา CARL SUCHY & SÖHNE พร้อมด้วยท่านเอกอัครราชทูต Wilhelm M. Donko รวมถึงที่ปรึกษาฝ่ายพาณิชย์ Mr. Michael Friedl จากสถานเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทย และคุณศิริพร ลิจุติภูมิ Omnichannel Category Director - Luxury, Young Fashion and Watches ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ให้เกียรติเข้าร่วมงานในครั้งนี้ โดยมีคุณณภัทร นัตธนนท์ ปิ่นโรจน์กีรติ เป็นพิธีกรภายในงาน
เริ่มงานโดย Mr. Marcel Gut ขึ้นกล่าวขอบคุณผู้มีเกียรติและกล่าวเปิดงาน พร้อมกับเชิญDr. Robert Punkenhofer ร่วมเล่าถึงเรื่องราวของแบรนด์นาฬิกา CARL SUCHY & SÖHNE อันเป็นตำนานแห่งเรือนเวลาชั้นสูงจากเวียนนา และได้รับเกียรติให้ประดับอยู่บนข้อมือกษัตริย์ แห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี จากการที่แบรนด์นาฬิกา CARL SUCHY & SÖHNE ได้ก่อตั้งขึ้นในยุคจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และเป็นผู้ผลิตนาฬิกาประจำราชสำนัก ซึ่งถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่สำคัญที่สุดในยุคนั้น
ด้วยความที่ Mr. Carl Suchy เป็นช่างนาฬิกาที่เก่งและโดดเด่นที่สุดในจักรวรรดิ จึงได้รับการแนะนำให้ถวายงานอย่างต่อเนื่อง และต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นช่างนาฬิกาประจำราชสำนัก รวมทั้งตระกูล Suchy ก็ได้รับใช้ราชวงศ์อย่างต่อเนื่อง อย่างยาวนานถึงสามชั่วอายุคน ซึ่งในพระราชวังเชิงบรุนน์ (Schönbrunn) ก็ยังมีผลงานจัดแสดงอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยยังมีเอกสารเก่าเก็บไว้ในคลังที่ระบุชัดเจนว่า Mr. Carl Suchy เป็นผู้จัดสร้างกล่องนาฬิกาและให้บริการ ซ่อมบำรุงนาฬิกาแก่ราชสำนักอีกด้วย
สำหรับแบรนด์นาฬิกา CARL SUCHY & SÖHNE สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “จิตวิญญาณแห่งเวียนนา” ในยุคจักรวรรดิ “นาฬิกาที่ผลิตในเวียนนาขึ้นชื่อเรื่องความเที่ยงตรง และดีไซน์ที่สง่างามไม่แพ้นาฬิกาสวิส ซึ่งเราพยายามนำจิตวิญญาณแบบนั้นกลับมาอีกครั้ง ทั้งด้านความละเอียดอ่อน ความประณีต และความสง่างามอันเป็นหัวใจของงานฝีมือของชาวเวียนนา โดยทุกเรือนคือการรื้อฟื้นศิลปะแห่งเวลาในแบบดั้งเดิม นั่นคือความงามที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ซึ่งใครที่เคยไปเยี่ยมชมใจกลางเวียนนาจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศนี้”
“ด้วยทั้งสถาปัตยกรรม เส้นสาย และลวดลายต่างๆ ของเมือง ที่ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราออกแบบนาฬิกาทุกเรือนในปัจจุบัน” Dr. Robert Punkenhofer กล่าวในงาน โดยพร้อมกันนี้ Dr. Robert Punkenhofer ยังได้นำนาฬิกาจากมิวเซียมมาจัดแสดงถึงสองเรือนเพื่อให้ผู้เข้าร่วมในงานได้ชื่นชมกัน โดยเป็นนาฬิกาแบบพกซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเรือน “คู่แฝด” กับนาฬิกาของ Sigmund Freud บิดาแห่งจิตวิเคราะห์ที่ได้เคยใช้ ขณะทำการบำบัดผู้ป่วยอีกด้วย ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกคนที่ได้เข้าชมเป็นอย่างมาก
ซึ่งนาฬิการุ่นไฮไลท์ในปัจจุบันของ CARL SUCHY & SÖHNE ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยคือรุ่น Belvedere ที่มีความหมายว่า “ทัศนียภาพอันงดงาม” โดยเป็นนาฬิกากลไกอัตโนมัติสไตล์สปอร์ทที่แข็งแกร่ง และมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยหน้าต่างแสดงวันที่ไม่เหมือนใครในแบบโรเทติ้งวินโดว์เดท (Rotating Window Date) ที่ทำให้ช่องหน้าต่างแสดงค่าวันที่ หมุนเปลี่ยนตำแหน่งไปรอบหน้าปัดในทุกวัน ทำให้หน้าปัดดูแตกต่างและมีความพิเศษ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ทั้งสนุกและแสดงอารมณ์สุนทรีย์ได้ในเวลาเดียวกัน
และเมื่อพลิกดูด้านหลังจะเห็นเอกลักษณ์สำคัญของนาฬิการุ่นนี้ ที่โรเตอร์ได้ถูกแกะสลักแบบไมโครในรูปพระราชวังเบลเวเดียร์ตามชื่อรุ่น ด้วยเทคนิคการเจาะชิ้นงานที่ละเอียด ในระดับไมโครตามแบบงานศิลปะอย่างแท้จริง ทั้งนี้ในส่วนของสายนาฬิกาก็ยังมีลวดลายพิเศษ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนของพระราชวัง เพื่อสื่อถึงต้นกำเนิดของชื่อนาฬิการุ่นนี้ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเทเบิ้ลคล็อค ที่ผลิตในจำนวนเพียง 5 เรือนทั่วโลก โดยทุกเรือนจะผลิตขึ้นด้วยมือทั้งหมด พร้อมให้พลังสำรองลานนานถึง 8 วัน
ในกลไกไขลานด้วยมือแบบดั้งเดิมที่ผลิตจากบราซส์ และถือเป็นนาฬิกาที่ถูกผลิตขึ้นในออสเตรียอีกครั้งในรอบกว่าร้อยปี ภายใต้ชื่อรุ่น Table Waltz Tourbillon นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกามาเป็นคนรับเชิญพิเศษในช่วงสนทนา ถึงความชื่นชอบส่วนตัวและความประทับใจในแบรนด์ CARL SUCHY & SÖHNE พร้อมด้วยการจัดแสดงแบรนด์นาฬิกาแนวอิสระ ที่หาชมได้ยากซึ่งทาง PRÉCIEUX (Thailand) ได้นำมาร่วมแสดงในงานครั้งนี้
ตั้งแต่นาฬิกา Emera รุ่น Cyborg นาฬิกาอิสระแนวฟิวเจอร์ริสติค จากสวิสที่สะท้อนแนวคิด “The Fusion of Man and Machine” โดยได้แรงบันดาลใจมาจากหุ่นยนต์ ซูเปอร์คาร์ และโครงสร้างเกราะเอ็กโซสเกเลตัน แห่งโลกอนาคตที่มีการผลิตขึ้นเพียง 9 เรือนเท่านั้น รวมไปถึงแบรนด์นาฬิกา RUDIS SYLVA RS16 Rose Gold อันเป็นผลงานชิ้นสำคัญจากแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมกลไกสุดซับซ้อนที่เป็นมากกว่าตูร์บิยอง รวมทั้งแบรนด์ BA111OD จากตระกูลช่างนาฬิกาที่มีอายุมากกว่า 200 ปี และแบรนด์นาฬิกา DOXA 1889
โดยสามารถติดตามข้อมูลของแบรนด์นาฬิกาทั้ง 5 ได้ รวมทั้งสอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อทางช่องทางออนไลน์ได้ทั้ง LINE Official @PrecieuxTH คลิ๊ก https://lin.ee/vlVVzOa ทางเฟสบุค https://www.facebook.com/profile.php?id=61579136150557 หรือทางอินสตราแกรม https://www.instagram.com/precieuxth/
