LOUIS ERARD x VIANNEY HALTER II World Tour
นาฬิกาในรุ่น Le Régulateur กลับมาอีกครั้งด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมก่ารจับคู่กับเข็มสีอีเล็คทริคบลูสตีล บนความโดดเด่นยิ่งกว่าเดิมของหน้าปัดสีเงิน ในแบบโมโนโครมใหม่ล่าสุด ที่ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางครั้งสำคัญโดยมี Viannay Halter และ Manuel Emch นำทีมเดินสายเพื่อเผยศาสตร์การผลิตนาฬิกา ผ่านการนำเสนอผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแต่ละเมือง พร้อมเบื้องหลังที่หาชมได้ยาก โดยแต่ละผลงานที่ได้นำเสนอล้วนสอดคล้อง กับทุกจุดหมายที่เป็นการผลิตในจำนวนจำกัด

ที่จะไม่มีทางผลิตขึ้นซ้ำอีก จากสีหลักของพื้นหน้าปัดสีเงิน ในแบบโมโนโครมพร้อมหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาโทนสีเดียวกัน จับคู่กับสายหนังสีน้ำเงินที่สะท้อน ถึงโทนสีเดียวกับเข็มชั่วโมงและนาที ที่เป็นแบบบลูสตีล พร้อมความพิเศษของสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ จากเข็มวินาทีที่จะมีรหัสสีที่แตกต่างกันไป ในแต่ละเมือง พร้อมการสลักข้อความ “Live long and prosper” ซึ่งเป็นคติประจำใจของ VIANNEY ที่จะได้รับการสลักไว้ในภาษาที่แตกต่างกัน ตามแต่ละเมืองที่จะเปิดตัวในครั้งนี้ บนขอบฝาด้านหลังตัวเรือน

โดยจะมีจำนวนการผลิตในแบบจำกัดเพียง 178 เรือน + รุ่นที่ผลิตเฉพาะตามแต่ละเมือง บนเส้นทางการเดินสายอีก 178 เรือนซึ่งแบ่งย่อยออกเป็นผลงานละ 18 ถึง 25 เรือนต่อเมืองพร้อมเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่นเดิมที่คงอยู่ ตั้งแต่ดีเอ็นเอสไตล์สตีมพังก์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิการุ่น Antiqua อันเป็นผลงานซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ VIANNEY HALTER ในดีไซน์เท่ดิบแบบอุตสาหกรรม พร้อมสกรูว์ชุบทองแดง, ขอบตัวเรือนแบบใช้สกรูว์ยึด และเม็ดมะยมเยื้องศูนย์ในตำแหน่ง 2 นาฬิกา โดยยังคงการแสดงค่าเวลา

ในแบบแยกส่วนตามสไตล์เรกูเลเตอร์ พร้อมหน้าปัดย่อยในแบบสปลิท-ไทม์ อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ที่ยังคงงานตกแต่งชั้นสูงไว้ ตั้งแต่ขอบมุมของตัวเรือน ที่ผ่านการขัดเงาและเจียรไน รวมทั้งการขัดลายซาตินทั้งในแบบวงกลมและแนวตั้ง “นี่ไม่ใช่เพียงความร่วมมือปกติ แต่คือการผสานพลังเชิงสร้างสรรค์ระหว่าง VIANNEY HALTER ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาสไตล์สตีมพังก์ กับความเป็นเรกูเลเตอร์อันเป็นซิกเนเจอร์ของ LOUIS ERARD ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการบอกเวลา แต่คือการครอบครองและกำหนดค่าเวลาในแบบใหม่

ซึ่งผลลัพธ์ก็คือนาฬิกาที่รื้อโครงสร้าง และแยกชิ้นส่วนกันอย่างสร้างสรรค์ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่น Antiqua จากปี 1998 ที่ออกแบบมาให้สวมใส่ได้ทุกวัน และควรค่ากับการเก็บสะสม ที่แม้อาจต้องตามหาทุกสีของเข็มแสดงค่าวินาที โดยการเปิดตัวแต่ละครั้งจะเปรียบเสมือนการปล่อยสนีกเกอร์รุ่นหายาก และมีจำนวนการผลิตแบบจำกัด เฉพาะเมืองและตัวแทนจำหน่ายนั้นๆ ที่เราเปลี่ยนทุกเมืองให้กลายเป็นเวที และทุกการเปิดตัวให้กลายเป็นอีเวนต์ พร้อมทุกวินาทีที่เป็นสิ่งที่คู่ควรแก่การตามหา” Mr. Manuel Emch กล่าว

จากวันที่ 23.09.2025 ที่เป็นการเปิดตัวแบบ Worldwide Edition กับนาฬิกาที่มีเข็มแสดงค่าวินาทีสีน้ำเงิน พร้อมฝาหลังที่สลักข้อความ “LOUIS ERARD x VIANNEY HALTER, Limited Edition 1 of 178” ผลิตจำนวนจำกัด 178 เรือน และต่อมาในวันที่ 23.09.2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น กับนาฬิกาที่มีเข็มแสดงค่าวินาทีสีโรเดียม ที่ดูลงตัวกับโทนสีหน้าปัด พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Longue vie et prospérité” ผลิตจำนวนจำกัด 25 เรือน ส่วนวันที่ 24.09.2025 ณ กรุงเทพฯ, ประเทศไทย โดย PMT The Hour Glass กับเข็มแสดงค่าวินาทีสีแอนทราไซท์ พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Live long and prosper”ผลิตจำนวนจำกัด 18 เรือน และวันที่ 26.09.2025 ณ ฮ่องกง

กับเข็มวินาทีสีม่วง พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Live long and prosper” เป็นภาษาจีน และผลิตในแบบจำนวนจำกัด 25 เรือน ส่วนสุดท้ายในวันที่ 30.09.2025 ณ ประเทศสิงคโปร์ กับเข็มวินาทีสีคอปเปอร์ พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Live long and prosper” ผลิตจำนวนจำกัด 25 เรือน โดยนาฬิกาเรือนดังกล่าวนี้จะมีจำหน่ายในประเทศไทยที่ 209,000 บาท



