LOUIS ERARD x VIANNEY HALTER II World Tour

นาฬิกาในรุ่น Le Régulateur กลับมาอีกครั้งด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมก่ารจับคู่กับเข็มสีอีเล็คทริคบลูสตีล บนความโดดเด่นยิ่งกว่าเดิมของหน้าปัดสีเงิน ในแบบโมโนโครมใหม่ล่าสุด ที่ไม่ได้เป็นเพียงการเปิดตัวนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางครั้งสำคัญโดยมี Viannay Halter และ Manuel Emch นำทีมเดินสายเพื่อเผยศาสตร์การผลิตนาฬิกา ผ่านการนำเสนอผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟในแต่ละเมือง พร้อมเบื้องหลังที่หาชมได้ยาก โดยแต่ละผลงานที่ได้นำเสนอล้วนสอดคล้อง กับทุกจุดหมายที่เป็นการผลิตในจำนวนจำกัด

 

Screenshot 2568 09 28 at 21.49.21

 

ที่จะไม่มีทางผลิตขึ้นซ้ำอีก จากสีหลักของพื้นหน้าปัดสีเงิน ในแบบโมโนโครมพร้อมหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาโทนสีเดียวกัน จับคู่กับสายหนังสีน้ำเงินที่สะท้อน ถึงโทนสีเดียวกับเข็มชั่วโมงและนาที ที่เป็นแบบบลูสตีล พร้อมความพิเศษของสีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ จากเข็มวินาทีที่จะมีรหัสสีที่แตกต่างกันไป ในแต่ละเมือง พร้อมการสลักข้อความ “Live long and prosper” ซึ่งเป็นคติประจำใจของ VIANNEY ที่จะได้รับการสลักไว้ในภาษาที่แตกต่างกัน ตามแต่ละเมืองที่จะเปิดตัวในครั้งนี้ บนขอบฝาด้านหลังตัวเรือน

 

CvreKuPFWwjfjl5ukUgZGd9gipuR2UVMUtm4xMwE

 

โดยจะมีจำนวนการผลิตในแบบจำกัดเพียง 178 เรือน + รุ่นที่ผลิตเฉพาะตามแต่ละเมือง บนเส้นทางการเดินสายอีก 178 เรือนซึ่งแบ่งย่อยออกเป็นผลงานละ 18 ถึง 25 เรือนต่อเมืองพร้อมเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่นเดิมที่คงอยู่ ตั้งแต่ดีเอ็นเอสไตล์สตีมพังก์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนาฬิการุ่น Antiqua อันเป็นผลงานซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ VIANNEY HALTER ในดีไซน์เท่ดิบแบบอุตสาหกรรม พร้อมสกรูว์ชุบทองแดง,  ขอบตัวเรือนแบบใช้สกรูว์ยึด และเม็ดมะยมเยื้องศูนย์ในตำแหน่ง 2 นาฬิกา โดยยังคงการแสดงค่าเวลา

 

05

 

ในแบบแยกส่วนตามสไตล์เรกูเลเตอร์ พร้อมหน้าปัดย่อยในแบบสปลิท-ไทม์ อันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ ที่ยังคงงานตกแต่งชั้นสูงไว้ ตั้งแต่ขอบมุมของตัวเรือน ที่ผ่านการขัดเงาและเจียรไน รวมทั้งการขัดลายซาตินทั้งในแบบวงกลมและแนวตั้ง “นี่ไม่ใช่เพียงความร่วมมือปกติ แต่คือการผสานพลังเชิงสร้างสรรค์ระหว่าง VIANNEY HALTER ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาสไตล์สตีมพังก์ กับความเป็นเรกูเลเตอร์อันเป็นซิกเนเจอร์ของ LOUIS ERARD ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการบอกเวลา แต่คือการครอบครองและกำหนดค่าเวลาในแบบใหม่

 

03

 

ซึ่งผลลัพธ์ก็คือนาฬิกาที่รื้อโครงสร้าง และแยกชิ้นส่วนกันอย่างสร้างสรรค์ แต่ยังคงเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่น Antiqua จากปี 1998 ที่ออกแบบมาให้สวมใส่ได้ทุกวัน และควรค่ากับการเก็บสะสม ที่แม้อาจต้องตามหาทุกสีของเข็มแสดงค่าวินาที โดยการเปิดตัวแต่ละครั้งจะเปรียบเสมือนการปล่อยสนีกเกอร์รุ่นหายาก และมีจำนวนการผลิตแบบจำกัด เฉพาะเมืองและตัวแทนจำหน่ายนั้นๆ ที่เราเปลี่ยนทุกเมืองให้กลายเป็นเวที และทุกการเปิดตัวให้กลายเป็นอีเวนต์ พร้อมทุกวินาทีที่เป็นสิ่งที่คู่ควรแก่การตามหา” Mr. Manuel Emch กล่าว

 

01

 

จากวันที่ 23.09.2025 ที่เป็นการเปิดตัวแบบ Worldwide Edition กับนาฬิกาที่มีเข็มแสดงค่าวินาทีสีน้ำเงิน พร้อมฝาหลังที่สลักข้อความ “LOUIS ERARD x VIANNEY HALTER, Limited Edition 1 of 178” ผลิตจำนวนจำกัด 178 เรือน และต่อมาในวันที่ 23.09.2025 ณ ประเทศญี่ปุ่น กับนาฬิกาที่มีเข็มแสดงค่าวินาทีสีโรเดียม ที่ดูลงตัวกับโทนสีหน้าปัด พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Longue vie et prospérité” ผลิตจำนวนจำกัด 25 เรือน ส่วนวันที่ 24.09.2025 ณ กรุงเทพฯ, ประเทศไทย โดย PMT The Hour Glass กับเข็มแสดงค่าวินาทีสีแอนทราไซท์ พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Live long and prosper”ผลิตจำนวนจำกัด 18 เรือน และวันที่ 26.09.2025 ณ ฮ่องกง 

Screenshot 2568 09 28 at 21.49.42

กับเข็มวินาทีสีม่วง พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Live long and prosper” เป็นภาษาจีน และผลิตในแบบจำนวนจำกัด 25 เรือน ส่วนสุดท้ายในวันที่ 30.09.2025 ณ ประเทศสิงคโปร์ กับเข็มวินาทีสีคอปเปอร์ พร้อมฝาหลังสลักข้อความ “Live long and prosper” ผลิตจำนวนจำกัด 25 เรือน โดยนาฬิกาเรือนดังกล่าวนี้จะมีจำหน่ายในประเทศไทยที่ 209,000 บาท

 

 

 

Screenshot 2568 09 28 at 21.55.42