Fil d’or by LOUIS ERARD x WIRE ART, Part I

 

LOUIS ERARD มุ่งสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้กับวงการนาฬิกาแบบดั้งเดิม ด้วยการรังสรรค์งานฝีมือชั้นสูง ให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้คนในวงกว้าง นาฬิกาจึงมีความโดดเด่นแต่มีรากฐานที่มาจากงานศิลปะ พร้อมความกล้าที่จะผสานความดั้งเดิม และความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้การรังสรรค์ของช่างฝีมือผู้มองการณ์ไกล เพื่อผลักดันขอบเขตของศาสตร์แห่งการผลิตนาฬิกา ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1929 สู่ความเป็นอิสระอันเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของแบรนด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจอิสระมาจากจิตวิญญาณแห่งเทือกเขาจูรา

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.52.59

 

พร้อมถ่ายทอดผ่านนาฬิกาแบบเรกูเลเตอร์ และนาฬิกาแบบจักรกลอันเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้การนำของ Manuel Emch ในแนวคิดที่สร้างให้ LOUIS ERARD มุ่งมั่นในนวัตกรรมมากกว่าการทำตามแบบแผน  สู่ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนมากกว่าการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเดินหน้าสร้างเส้นทางของในแบบของตัวเอง ผ่านความร่วมมือกับนักสร้างสรรค์ชั้นแนวหน้า เช่น Alain Silberstein, Vianney Halter และ Konstantin Chaykin ที่มาพร้อมการนำเสนอในเทคนิคใหม่ๆ เพื่อรังสรรค์นาฬิกาที่มอบนิยามและเปลี่ยนแปลงแก่นแท้ของเวลา

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.53.21

 

เช่นเดียวกันกับครั้งนี้กับ Sylvie Villa และ Mark Miehlbradt ผู้ก่อตั้ง WIRE ART Switzerland มาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ของโลกงานฝีมือ จากเวิร์กช็อปของทั้งคู่ตั้งที่อยู่บนเนินสูงในแซงต์ครัวซ์ ใจกลางแหล่งกำเนิดไมโครเมคานิกส์ของสวิตเซอร์แลนด์ กับบ้านไร่ของครอบครัวที่ได้รับการบูรณะใหม่ ให้กลายเป็นพื้นที่ที่วิศวกรรมจุลภาค ที่มาบรรจบกับการงานศิลปะในรูปแบบใหม่ ที่ซึ่ง Sylvie และ Mark ผู้เป็นวิศวกรหลังจากจบการศึกษา ทางด้านไมโครเทคโนโลยีและไมโครอิเล็กทรอนิกส์

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.54.02

 

ที่ทั้งสองได้นำเครื่องจักรในการเดินเส้นลวด ซึ่งเคยเป็นหัวใจของเทคโนโลยียุคดิจิทัลในอดีต แต่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งกับ WIRE ART ที่เปลี่ยนจุดจบของเครื่องจักรเหล่านี้ ให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นในครั้งใหม่ โดยใช้ในการถักทอเส้นด้ายทองคำบริสุทธิ์ 24K สู่ผลงานศิลปะที่แท้จริงได้ ผ่านกระบวนการเฉพาะที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งเปลี่ยนการบัดกรีระดับจุลภาค ให้กลายเป็นศิลปะได้อย่างแท้จริง โดยเส้นทองคำที่มีความบางเฉียบเท่าเส้นผม จะถูกถักทอเป็นลวดลายที่ซับซ้อน

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.54.21

 

เพื่อสร้างเป็นภาพลวงตาในรูปทรงเรขาคณิต และให้พื้นผิวที่สะท้อนแสงอันระยิบระยับได้อย่างน่าหลงใหลซึ่งในขณะที่โลกอุตสาหกรรม ต่างพยายามเร่งเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้งแต่ Sylvie และ Mark กลับเลือกที่จะทำงานอย่างช้าๆ ที่มาพร้อมความประณีต เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงถึงความงดงาม จากรายละเอียดที่จะไม่อาจลอกเลียนกันได้ ซึ่งตรงกันกับแนวคิดของ LOUIS ERARD ที่ยังคงยืนหยัดในสิ่งที่ถนัด ด้วยการสะท้อนพรสวรรค์ งานฝีมือ ศิลปะ และแนวคิดอันกล้าหาญ ผ่านนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด Fil d’Or

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.58.47

 

อันเป็นผลงานแห่งความร่วมมือกับ Sylvie Villa และ Mark Miehlbradt สองผู้ก่อตั้ง Wire Art วิศวกรโดยการฝึกฝนพร้อมความเป็นศิลปินโดยจิตวิญญาณ จากงานที่พวกเขาเคยสร้างเครื่องจักรที่เชื่อมโลกดิจิทัล แต่ตอนนี้พวกเขากำลังเชื่อมโยงกาลเวลา ซึ่งไม่ใช่แค่ของตกแต่งหากแต่เป็นหัตถศิลป์รูปแบบใหม่ที่ Fil d’Or คือตัวแทนของนวัตกรรมที่ถูกเชื่อมประสานเข้ากับงานฝีมือ “เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ LOUIS ERARD จับมือร่วมงานกับศิลปิน ที่เริ่มต้นจากการพบกันของ Sylvie และ Mark ผู้ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเส้นด้ายสีทอง”

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.55.27

 

“พร้อมแรงบันดาลใจอันกล้าหาญ ในการเปลี่ยนเครื่องจักรที่เคยใช้ในเทคโนโลยีชิป ให้กลายเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างประติมากรรมทองคำขนาดเล็ก จากสิ่งที่เราไม่ได้ขอให้พวกเขาสร้างสรรค์ ผลงานพิเศษนี้เพื่อกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน แต่ท้าทายให้สร้างสิ่งที่เข้าถึงได้จริง ผ่านรูปทรงเรียบง่ายอย่างลูกบาศก์ และองค์ประกอบสำคัญที่มีอยู่แล้ว ในนาฬิกาเชิงศิลป์ของเราทั้งในงานแกะลายกิโยเช่ และการฝังชิ้นงานไม้แบบมาเควทที่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือภาพเสมือน ที่รังสรรค์มาจากทองคำแท้ แต่ตรงกันข้ามกับความหมาย”

 

Screenshot 2568 10 05 at 21.53.49

 

“ของเทคนิคเหล่านี้นั่นก็คือการเปิดเผยความจริงอย่างหมดเปลือก ตั้งแต่กระบวนการสร้างสรรค์ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ ไปจนถึงช่างฝีมือผู้ลงมือทำ เพราะนี่คือแนวทางของ LOUIS ERARD ซึ่งก็คือการเล่าเรื่องตามความจริงที่เกิดขึ้น” Manuel Emch กล่าวถึงนาฬิกาที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเพียง 99 เรือนทั่วโลก ที่มาพร้อมตัวเรือนสตีลในขนาด39 มิลลิเมตร กับหน้าปัดที่มีฐานเคลือบด้วยแลคเกอร์สีดำ ประกอบกับเส้นทองคำบริสุทธิ์ 24K ขนาดเล็กกว่าสายตาที่ผ่านการชุบแข็งจำนวน 2,320 เส้น และจุดบัดกรีอีกกว่า 3,660 จุด

 

Screenshot 2568 10 05 at 22.02.46

 

ในเทคนิค:ไมโครบอนด์ดิ้งที่ผ่านการจดสิทธิบัตร โดยใช้เครื่องจักรที่ถูกโปรแกรมใหม่โดยเฉพาะ โดยมีเส้นลวดที่มีความหนาเพียง 25 ไมครอนซึ่งบางกว่าผมมนุษย์ถึง 3 เท่า พร้อมติดตั้งเส้นทอง 1 เส้นในทุก ๆ 3 วินาที เพื่อสร้างเป็นดีไซน์ลวดลายลูกบาศก์ และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ LOUIS ERARD ในคอลเลกชั่นซึ่งเคยปรากฏมาแล้ว กับงานแกะสลักลวดลายและการฝังไม้ เพื่อถ่ายทอดรูปทรงเรขาคณิต ที่แสดงให้เห็นได้ถึงภาพลวงตา ในแบบงานปักเชิงกลระดับจุลภาค ที่สร้างสรรค์ขึ้นในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

 

โปรดติดตามในบทความครั้งต่อไป

 

Screenshot 2568 10 05 at 22.06.04