Unfrogettable
กาลครั้งหนึ่ง… ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า กาลครั้งที่พลิกเรื่องราวของ LOUIS ERARD และ KONSTANTIN CHAYKIN ที่กลับมาพร้อมงานการสร้างสรรค์ ซึ่งฉีกทุกกฎเกณฑ์และก้าวข้ามประเพณี และยังออกนอกกรอบด้วยรอยยิ้มที่สะดุดตา กับการแนะนำ Unfrogettableเจ้าหญิงกบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แต่เกิดจากตำนานสลาฟ พร้อมการสวมชุดเกราะซามูไร และสร้างสรรค์ขึ้นในเทือกเขาจูราของสวิตเซอร์แลนด์ โดยตัวเรือนจะเป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมด ผนวกกับการแสดงค่าเวลาแบบรีกูเลเตอร์ที่ทำให้มีชีวิต

ราวกับคาถาที่สื่อสารผ่านการสวมใส่ ขับเคลื่อนด้วยชุดกลไกโมดูลของ KONSTANTIN CHAYKIN ร่วมกับจิตวิญญาณของ LOUIS ERARD ที่ให้ผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนใครและยากจะลืมเลือน ซึ่งเหนือจากความสนุกก็คือความเที่ยงตรง และเหนือกว่าความแหวกแนวคือความชำนาญการของทั้งสอง “สำหรับกับ KONSTANTIN CHAYKIN การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ความร่วมมือธรรมดา แต่เป็นการสร้างสรรค์งานร่วมกันพร้อมกับมิตรภาพของสองแบรนด์อิสระที่ไม่กลัว ที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการ”

“แต่ยังเคารพต่อประเพณีพร้อมแฝงด้วยรอยยิ้ม ที่เราทลายกรอบ ดัดแปลงตำนาน และทำให้ทุกคนยิ้มพร้อมคิดสองรอบเลย จนกลายเป็นตัวละครใหม่ในครั้งนี้คือ Unfrogettableซึ่งนำเสนอในหน้าปัดแบบใหม่ ที่ถูกออกแบบให้ก้าวข้ามกว่าการเป็น เพียงแค่เข็มนาฬิกาและเม็ดมะยมแบบธรรมดา จากที่เราเคยสร้างนาฬิกาแบบตูร์บิยองและฟังก์ชั่นสลับซับซ้อน ครั้งนี้เราจึงปรับตัวเรือนใหม่ ปรับพื้นผิวใหม่ในวัสดุไทเทเนียม และออกแบบสายหนังจากหนังเคลือบ ในแบบเดียวกับที่ใช้ในชุดเกราะซามูไร”

“ซึ่งแต่ละรายละเอียดล้วนมีความหมาย จากกบในตำนานรัสเซียที่มีคาถาพรางตัว ส่วนในญี่ปุ่นคือสัญลักษณ์แห่งโชคและความเข้มแข็ง โดยเมื่อรวมกันจึงกลายเป็นไฮบริด กับกบที่มีหัวใจนักรบ ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ทั้งขี้เล่นและแหวกแนวเล็กน้อย แต่เบื้องหลังความซุกซนเหล่านี้ คือศาสตร์แห่งนาฬิกาชั้นสูง อันเป็นเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านชุดกลไกได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมพลิกมุมมองใหม่ที่จะสร้าง ความประทับใจให้กับทุกคนได้ตลอดไป”Manuel Emch พูดถึงความพิเศษและที่มาของนาฬิการุ่นล่าสุดนี้

กับดวงตาที่เบิกกว้างและสายตาเตรียมพร้อม ที่จ้องตรงมาจากหน้าปัดแบบเรกูเลเตอร์ อันเป็นเอกลักษณ์ของ LOUIS ERARD ที่พลิกมุมมองในแนวนอน โดยแสดงค่าเวลาชั่วโมงในตำแหน่ง 9 นาฬิกาและค่าเวลาวินาทีในตำแหน่ง 3 นาฬิกา พร้อมเข็มแสดงเวลานาทีทรงลูกศรตัดผ่านตรงกลาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงเรื่องราวของเจ้าหญิงกบ ขณะที่เวลาผ่านไปและลูกตาจะหมุนตามเวลา ที่ทำให้หน้าปัดดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น บนพื้นหน้าปัดที่ดูโดดเด่นเล่นกับโทนสีที่ตัดกัน ประกอบด้วยพื้นผิวสีม่วงหรือเขียวเข้ม

โดยมีรูจมูกเคลือบเงาและวงแหวนแสดงค่านาทีในสองโทนสี พร้อมส่วนสีแดงบริเวณวงแหวนหน้าปัดที่พิมพ์ข้อความ LOUIS ERARD ในตัวเรือนที่มีการปรับปรุงใหม่ พร้อมความเพรียวบางและเล็กลง ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมเกรด 5 ขนาด 40 มิลลิเมตรหนา 12.45 มิลลิเมตร ในนาฬิกา Ref. 85340AA01.BVA191 และ 85340AA02.BVA192 พร้อมราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 213,000 บาททั้งสองแบบ



