สุดยอดคอลเลคชั่นจาก PATEK PHILIPEE อันทรงคุณค่า
นาฬิกาจาก PATEK PHILIPPE ในรูปแบบกลไกซับซ้อน อันหลากหลายที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมการขยายคอลเลคชั่นของนาฬิกา ในรูปแบบกลไกซับซ้อนที่แบรนด์ มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้วเพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาที่สามารถแสดงค่าปฏิทิน หรือนาฬิกาสำหรับนักเดินทาง ที่มาพร้อมกลไกที่ออกแบบมา ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง พร้อมการอ่านค่าเวลาที่เป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด
กับนาฬิกากลไกแบบแอนนวลคาเลนดาร์อันเลื่องชื่อ ซึ่งคิดค้นและจดสิทธิบัตรโดย PATEK PHILIPPE ในปี 1996 กับนาฬิการุ่นใหม่ในปีนี้ที่มาพร้อมตัวเรือนที่ผลิตจากโรสโกลด์ ซึ่งถือเป็นนาฬิการุ่นแรกของ Ref. นี้ที่ไม่มีการประดับอัญมณี ซึ่งมาพร้อมกับขนาดตัวเรือนที่ 38 มิลลิเมตรที่เหมาะกับทุกขนาดข้อมือ จากความเงางามและอบอุ่นของวัสดุโรสโกลด์ ที่ผสานกันอย่างสง่างามกับหน้าปัดสีน้ำตาล ที่ตกแต่งด้วยลวดลายซาตินปัดด้าน ทั้งในแนวตั้งและแนวนอนคู่กันแบบชานตุง (Shantung)
และใช้งานคู่กันกับสายหนังลูกวัวปั๊มลาย "เดนิม" พร้อมการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 26-330 S QA LU ในนาฬิกา Ref. 4946R-001 ที่สามารถแสดงค่าวัน วันที่ และเดือน ที่ต้องการการปรับตั้งเพียงปีละครั้งเท่านั้น ในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ของแต่ละปี ซึ่งพร้อมกันนี้ PATEK PHILIPPE ยังภูมิใจนำเสนอความสำเร็จครั้งสำคัญ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกแห่งการบิน กับนาฬิการุ่น Calatrava Pilot Travel Time ใน Ref. 5524G-010 ที่มาพร้อมตัวเรือนไวท์โกลด์
โดยมอบความงามแบบวินเทจ ด้วยหน้าปัดเคลือบแลคเกอร์สีงาช้าง พร้อมกับสายวัสดุสังเคราะห์ สีเขียวกากีปั๊มลวดลายคล้ายผ้า สู่นาฬิกาสำหรับนักเดินทางที่โดดเด่น และมีสไตล์ที่ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 26-330 S C FUS ซึ่งโดดเด่นด้วยความสะดวกในการใช้งาน ของระบบการแสดงค่าเวลาในสองไทม์โซน พร้อมการแสดงค่าวันที่ด้วยเข็ม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ที่จะปรับตั้งเองโดยอัตโนมัติตามเวลาท้องถิ่น ไม่ว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังตามความเหมาะสม
ต่อมากับเสน่ห์แห่งสไตล์และความสง่าในมิติใหม่ จากความนิยมของนาฬิกาที่ถูกจัดอยู่ในประเภท "นาฬิกาที่มีความเรียบง่าย" (Simple Watches) ด้วยรูปลักษณ์ที่มีบุคลิคเฉพาะตัวอย่างชัดเจน ซึ่งได้รับการเสริมความโดดเด่นด้วยงานการขัดแต่งที่ไร้ที่ติ แม้ในรายละเอียดที่เล็กน้อยที่สุด กับนาฬิกา Calatrava ในแบบที่สะท้อนถึงความสง่างามเหนือกาลเวลา และนำเสนอรุ่นใหม่ในตัวเรือนวัสดุแพลทตินัม พร้อมเพิ่มสัมผัสแห่งความวินเทจด้วยหน้าปัดสีโรสโกลด์ ในดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สง่างาม
ในนาฬิกา Ref. 6196P-001 ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนที่ผ่านการขัดเงา พร้อมด้านข้างตัวเรือนที่ตกแต่งด้วยลายซาตินแบบปัดด้าน และขอบตัวเรือนที่ผ่านการลบมุมอย่างนุ่มนวล ผนวกกันกับขาตัวเรือนที่ค่อยๆ เรียวเล็กลงอย่างมีสไตล์ เชื่อมต่อกับสายหนังจระเข้สีน้ำตาลช็อคโกแลตเงางาม และทำงานด้วยกลไกไขลานอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 30-255 PS ในรูปลักษณ์ที่บางเฉียบเป็นพิเศษ พร้อมให้พลังสำรองลานที่ยาวนานถึง 65 ชั่วโมงและฟังก์ชัน "หยุดเข็มวินาที" ที่ทำให้การตั้งเวลามีความแม่นยำถึงระดับเสี้ยววินาที
พร้อมรูปแบบเพิ่มเติมของ Cubitus นาฬิกาในคอลเลคชั่นล่าสุด ที่ถ่ายทอดความหมายใหม่ของสไตล์ "สปอร์ตสุดหรู" ในขนาดกลางที่ 40 มิลลิเมตรที่ลงตัวกับทุกขนาดข้อมือ พร้อมทางเลือกในสองแบบคือใน Ref. 7128/1G-001 ตัวเรือนไวท์โกลด์พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินเทาซันเบริท์ส และใน Ref. 7128/1R-001 ตัวเรือนโรสโกลด์พร้อมหน้าปัดสีน้ำตาลซันเบริท์ส กับตัวเรือนสี่เหลี่ยมมุมโค้งมนในทรวดทรงอันสง่างาม ที่ถูกขับเน้นให้เด่นชัดขึ้นด้วยการใช้พื้นผิว ในลายซาตินปัดด้านแนวตั้ง
สลับกับลายซาตินแบบขัดเงา พร้อมการทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 26-330 S C ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการหยุดเข็มวินาที โดยมีโรเตอร์กลางที่ผลิตจากทองคำ ประดับด้วยลายนูนแนวนอนแบบเดียวกับหน้าปัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Cubitus ผนวกเข้ากับสายที่มีระบบปรับขนาดแบบล็อคได้ และชุดล็อคแบบบานพับของ PATEK PHILIPPE ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และพร้อมกันนี้กับนาฬิกาคอลเลคชั่น Nautilus สำหรับคุณสุภาพสตรีในแบบ Ladies’ Nautilus
สองรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกลไกอินเฮ้าส์ควอท์ซ และตัวเรือนที่ผลิตจากไวท์โกลด์ในขนาด 32 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดที่ประดับด้วยลวดลายคลื่นเล็กๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลคชั่นนี้ และผ่านการเคลือบด้วยแลคเกอร์สีฟ้าครามอันสง่างาม ผนวกเข้ากับตัวเรือนที่ดึงดูดสายตา จากพื้นผิวแบบลายซาตินปัดด้านสลับกับขัดเงา พร้อมขอบตัวเรือนที่ส่องประกาย ด้วยเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสรจำนวน 46 เม็ดน้ำหนักประมาณ 0.8 กะรัต พร้อมรหัส Ref. 7010G-013 ที่โดดเด่นด้วยชุดสายวัสดุเดียวกับตัวเรือน
สุดท้ายกับ Nautilus Haute Joaillerie ใน Ref. 5811/1460G-001 ที่น่าทึ่งด้วยรูปอัญมณีล้ำค่า กับเพชรทรงกลมแบบบริลเลียนท์คัทจำนวน 1,285 เม็ดน้ำหนักประมาณ 6.43 กะรัต และเพชรทรงบาแก็ตอีกจำนวน 195 เม็ดน้ำหนักประมาณ 13.27 กะรัต ที่ร่วมกันทำให้นาฬิกาในรูปแบบ การประดับอัญมณีล้ำค่าเรือนนี้ กลายเป็นผลงานแบบไอคอนิคที่ทรงคุณค่า พร้อมการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 26-330 S ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการหยุดเวลาวินาที ที่ช่วยให้สามารถตั้งเวลาได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
