CASIO Vintage “Back in Time, Ahead in Style”
CASIO Vintage พาเปิดประตูสู่โลกแห่งเวลาแนววินเทจกับงาน “Back in Time, Ahead in Style” ที่ชวนให้สัมผัสถึงเสน่ห์แห่งยุคของนาฬิกาดิจิทัลระดับตำนาน ซึ่งยังคงเปล่งประกายแบบไร้กาลเวลา พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์ที่ยึดมั่นมาโดยตลอด จากดีไซน์สุดล้ำในวันวาน สู่แฟชั่นไอคอนวินเทจที่ครองใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ณ The WAREHOUSEตลาดน้อย ซึ่งในงานนี้ล้วนอบอวลไปด้วยบรรยากาศวินเทจ ผสานกลิ่นอายโมเดิร์นร่วมสมัย เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่สะท้อน ถึงเอกลักษณ์ของแต่ละยุคได้อย่างลงตัว
โดยมีคนรับเชิญพิเศษสุดอย่าง ฟอส - จิรัชพงศ์ ศรีแสง, จูเน่ - เพลินพิชญา โกมลารชุน, ก้อย - อรัชพร โภคินภากร และ ท็อป - ทศพล หมายสุข มาร่วมถ่ายทอดสไตล์กันอย่างมีสีสัน พร้อมด้วยผู้บริหารและตัวแทนจาก CASIO ระดับภูมิภาค ทั้งจาก ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ ที่บินมาร่วมฉลองความสำเร็จของแบรนด์กันอย่างน่าประทับใจ โดยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คาสิโอ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กล่าวถึงงานว่า “ความสำเร็จของ CASIO Vintage ในตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้”
“ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะฟังก์ชั่นของนาฬิกา แต่เกิดจากความผูกพันทางอารมณ์ และความทรงจำที่ผู้สวมใส่สร้างขึ้น กับแบรนด์ในแต่ละยุคสมัย และที่เราเลือกกรุงเทพฯ ก็เพราะเมืองนี้เป็นศูนย์กลางของความคิดริเริ่ม ที่ผสมผสานวัฒนธรรมดั้งเดิม และความทันสมัยให้เข้ากันได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งมีผู้คนที่รักในแฟชั่นที่มีสไตล์ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งตรงกับจิตวิญญาณของ CASIO Vintage อีกทั้งตลาดวินเทจในกรุงเทพยังมีสเน่ห์ ที่น่าดึงดูดเหมาะกับแบรนด์คอนเซ็ปต์ของ CASIO ซึ่งนอกจากการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่”
“เรายังให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัส กับประสบการณ์ที่มีชีวิตของแบรนด์ ทั้งในแง่ของดีไซน์ ประวัติศาสตร์ และความคิดสร้างสรรค์ที่ต่อยอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยมีการนำนาฬิการุ่นในตำนาน ที่หาดูยากมาจัดแสดงในงาน เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่า นาฬิกาไม่ใช่แค่เครื่องบอกเวลา แต่เป็นสัญลักษณ์ของสไตล์และการแสดงออกตัวตน ที่ช่วยให้ทุกนาทีเต็มไปด้วยความมั่นใจในแบบของตัวเอง” ส่วนคุณไท จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัลแบรนด์และสินค้าเฉพาะทาง (CBS)
และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) ในเครือ เซ็นทรัลรีเทล ได้กล่าวเสริมว่า “ในฐานะตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา CASIO ในประเทศไทยมากว่า 30 ปี เราขอขอบคุณ CASIO ที่มอบความไว้วางใจและร่วมเดินทางเคียงข้างเรามาโดยตลอด โดยความเชื่อมั่นที่สั่งสมกันยาวนานนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ที่ผลักดันให้เรามุ่งมั่นคัดสรรและพัฒนา ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภคชาวไทย ที่เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการส่งต่อ”
“ทั้งนวัตกรรม เทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ CASIO ให้เข้าถึงผู้คนทั่วประเทศ และพร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อให้ CASIOยังคงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยทุกยุคสมัย” ซึ่งภายในงานยังพาทุกคนได้ดำดิ่งสู่โลกแห่ง CASIO Vintage ด้วยนาฬิการุ่นไอคอนิคทั้งนาฬิกาใน Ref. A158WA-1ADF อันเป็นซิกเนเจอร์คลาสสิก ที่มาพร้อมดีไซน์มินิมัล กับหน้าปัดดิจิทัลเรืองแสงและโทนสีเงินที่ยังคงเป็นที่รักของนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก
ส่วนนาฬิกาใน Ref. AQ230A จะเป็นนาฬิกาอนาล็อก–ดิจิทัลที่ผสมผสานความวินเทจ เข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นความสง่างามเหนือยุคสมัย ผ่านเส้นสายเรียบหรูที่ไม่มีวันล้าสมัย พร้อมกันกับการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกตั้งแต่นาฬิกาใน Ref. AQ240 ที่มีดีไซน์แบบเรโทร–โมเดิร์น กับตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมมน จับคู่กับหน้าปัดแบบเข็มและแอลอีดี พร้อมสายโลหะเรียบหรู เพื่อมอบลุคอันสง่างามและร่วมสมัย และพิเศษสุดกับแหวนนาฬิกา ที่สะท้อนความกล้าและหรูหราสไตล์วินเทจ
โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุคทองของนาฬิกาดิจิทัล เพื่อถ่ายทอดความมั่นใจและพลัง แห่งการขับเคลื่อนในทุกท่วงท่า รวมไปถึงนาฬิกาที่เป็นการร่วมงานระหว่าง CASIO Vintage กับภาพยนตร์เรื่อง Back to the Future ที่เพิ่งฉลองการครบรอบ 40 ปี ในปี 2025 เพื่อตีความเรื่องราวของการเดินทางข้ามเวลา ให้ออกมาในรูปแบบเรโทรร่วมสมัย รวมกันทำให้ทุกคอลเลคชั่นนของ CASIO Vintage เป็นบทสนทนาของเวลา ที่ไม่ใช่เพียงเพื่อบอกเวลา แต่เพื่อให้ทุกนาทีเต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีสไตล์เฉพาะตัว และเป็นสไตล์ที่คงอยู่เหนือกาลเวลา
